นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีกำหนดกล่าวแถลงการณ์รอบครึ่งปีว่าด้วยนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจสหรัฐต่อสภาคองเกรสในสัปดาห์นี้ โดยนายพาวเวลจะกล่าวถ้อยแถลงต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรในวันพรุ่งนี้ และจะแถลงต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาในวันพุธ
อย่างไรก็ดี สื่อได้เผยแพร่แถลงการณ์ของนายพาวเวล ก่อนที่เขาจะแถลงต่อสภาคองเกรสในสัปดาห์นี้
ทั้งนี้ แถลงการณ์ของนายพาวเวลระบุว่า เฟดมองว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีการขยายตัวอย่างแข็งแกร่งในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ โดยได้แรงหนุนจากความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและภาคธุรกิจ, ความมั่งคั่งที่เพิ่มขึ้นในภาคครัวเรือน, การขยายตัวของเศรษฐกิจในต่างประเทศ และสภาวะทางการเงินที่ผ่อนคลายภายในประเทศ ขณะที่อัตราว่างงานอยู่ในระดับต่ำ โดยเฟดคาดว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไปยังคงเป็นการดำเนินการที่เหมาะสม เนื่องจากไม่มีแรงกดดันจากเงินเฟ้อ
เฟดคาดว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไปในช่วง 2 ปีข้างหน้า โดยในช่วงปลายปี 2562 อัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟดจะอยู่ในระดับซึ่งจะจำกัดการขยายตัวเล็กน้อย ขณะที่อัตราดอกเบี้ยจะอยู่เหนือระดับที่เป็นกลางในช่วงเวลาดังกล่าว
มุมมองของเฟดดังกล่าวสอดคล้องกับคำกล่าวของนายพาวเวลก่อนหน้านี้ที่ว่า เขาเชื่อว่าเศรษฐกิจสหรัฐยังคงอยู่ในสภาวะสดใส โดยมาตรการปรับลดอัตราภาษี และการเพิ่มการใช้จ่ายของรัฐบาลจะช่วยหนุนผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ต่อไปอีก 3 ปี
รายงานของนายพาวเวลไม่ได้กล่าวถึงผลกระทบจากมาตรการทางการค้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์มากนัก เพียงแต่ระบุว่าความไม่แน่นอนต่อนโยบายการค้าสหรัฐเป็นปัจจัยสร้างความวิตกต่อตลาดการเงิน
นอกจากนี้ แถลงการณ์ของนายพาวเวลยังบ่งชี้ว่า เฟดไม่มีความกังวลมากนักเกี่ยวกับเสถียรภาพทางการเงิน โดยระบุว่าตลาดพันธบัตรค่อนข้างมีเสถียรภาพ และแทบไม่มีแรงกดดันด้านสภาพคล่อง แต่ได้ตั้งข้อสังเกตว่าในช่วงที่เศรษฐกิจเกิดการชะลอตัว ก็จะเพิ่มความเปราะบางต่อหุ้นกู้ภาคเอกชนที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือในระดับต่ำ