ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ออกแถลงการณ์ภายหลังการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ซึ่งเสร็จสิ้นลงเมื่อวานนี้ (1 ส.ค.) โดยระบุว่า ข้อมูลที่ได้รับนับตั้งแต่ที่คณะกรรมการ FOMC ประชุมกันในเดือนมิ.ย.บ่งชี้ว่า ตลาดแรงงานยังคงมีความแข็งแกร่ง และกิจกรรมทางเศรษฐกิจปรับตัวขึ้นในระดับที่แข็งแกร่งเช่นกัน ส่วนการขยายตัวของการจ้างงานในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมานั้น โดยเฉลี่ยมีความแข็งแกร่ง และอัตราว่างงานยังคงอยู่ในระดับต่ำ ขณะที่การใช้จ่ายภาคครัวเรือนและการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง
ส่วนตัวเลขเงินเฟ้อรายปี ทั้งอัตราเงินเฟ้อทั่วไป และอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานที่ไม่นับรวมราคาในหมวดอาหารและพลังงาน ยังคงอยู่ใกล้ระดับ 2% ขณะที่ข้อมูลที่ได้จากการสำรวจการคาดการณ์เงินเฟ้อระยะยาวบ่งชี้ว่า มีการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อย
คณะกรรมการ FOMC มุ่งมั่นที่จะสนับสนุนการจ้างงานให้เติบโตอย่างเต็มที่และหนุนราคาให้มีเสถียรภาพ คณะกรรมการคาดว่า การเดินหน้าปรับขึ้นกรอบเป้าหมายอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นอย่างค่อยเป็นค่อยไปนั้น จะสอดคล้องกับกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่องและภาวะตลาดแรงงานที่มีความแข็งแกร่ง รวมทั้งอัตราเงินเฟ้อที่เคลื่อนตัวเข้าใกล้ระดับ 2% ซึ่งเป็นเป้าหมายในระยะกลางของคณะกรรมการ FOMC ขณะที่แนวโน้มความเสี่ยงของเศรษฐกิจยังคงมีความสมดุล
เมื่อพิจารณาถึงภาวะตลาดแรงงานและเงินเฟ้อที่เป็นไปตามการคาดการณ์แล้ว คณะกรรมการได้ตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นเอาไว้ที่ระดับ 1.75% - 2.00% ขณะที่จุดยืนด้านนโยบายการเงินนั้น ยังคงอยู่ในลักษณะผ่อนคลาย ซึ่งจะช่วยสนับสนุนภาวะตลาดแรงงานให้แข็งแกร่ง และจะช่วยหนุนเงินเฟ้อให้ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 2% อีกครั้ง
ในการตัดสินใจเกี่ยวกับช่วงเวลาและขนาดในการปรับกรอบเป้าหมายอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นในอนาคตนั้น ทางคณะกรรมการจะประเมินภาวะเศรษฐกิจทั้งในแง่ของความเป็นจริงและการคาดการณ์ ซึ่งเกี่ยวเนื่องกับเป้าหมายของการจ้างงานสูงสุดและเงินเฟ้อที่ระดับ 2% การประเมินนี้จะพิจารณาข้อมูลในวงกว้าง ซึ่งรวมถึงมาตรวัดภาวะตลาดแรงงาน ปัจจัยชี้วัดเกี่ยวกับแรงกดดันด้านเงินเฟ้อและการคาดการณ์เงินเฟ้อ และการพิจารณาถึงความคืบหน้าทางการเงินและสถานการณ์ในต่างประเทศ
กรรมการเฟดผู้ที่ออกเสียงสนับสนุนการดำเนินนโยบายการเงินของ FOMC ได้แก่ เจอโรม เอช พาวเวล ประธานเฟด, จอห์น ซี วิลเลียม รองประธานเฟด, โธมัส ไอ บาร์คิน, ราฟาเอล ดับเบิลยู บอสติก, ลาเอล เบรนาร์ด, เอสเธอร์ แอล จอร์จ, ลอเร็ตตา เจ เมสเตอร์ และ แรนดัล เค. ควอร์เลส