รายงานประชุมชี้เฟดส่งสัญญาณพร้อมขึ้นดอกเบี้ยเดือนก.ย.หากเศรษฐกิจยังแข็งแกร่ง

ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานการประชุมประจำวันที่ 31 ก.ค.-1 ส.ค. โดยระบุว่า กรรมการเฟดหลายคนส่งสัญญาณว่า เฟดมีความพร้อมที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย. หากเศรษฐกิจของสหรัฐยังคงแข็งแกร่ง

"กรรมการหลายคนของเฟดมีความเห็นว่า หากข้อมูลเศรษฐกิจที่ได้รับมานั้น สนับสนุนมุมมองของเฟดเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจในปัจจุบัน ก็ถือเป็นเรื่องเหมาะสมที่เฟดจะก้าวไปสู่อีกขั้นตอนหนึ่งของการถอนนโยบายผ่อนคลายการเงิน" รายงานการประชุมเฟดระบุ

รายงานการประชุมยังระบุด้วยว่า "เป้าหมายการเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไปของเฟดนั้น จะพิจารณาถึงกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ขยายตัวอย่างยั่งยืน, ภาวะตลาดแรงงานที่แข็งแกร่งขึ้น และอัตราเงินเฟ้อที่เคลื่อนตัวเข้าใกล้เป้าหมายของเฟดที่ระดับ 2% ในระยะกลาง"

อย่างไรก็ตาม กรรมการเฟดบางคนได้แสดงความกังวลว่า ข้อพิพาทการค้าที่เกิดขึ้นในปัจจุบันอาจจะทำให้คณะกรรมการเฟดทบทวนเรื่องแผนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย พร้อมระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐกำลังเผชิญกับความเสี่ยงหลายด้าน ซึ่งรวมถึง ตลาดที่อยู่อาศัยซึ่งมีแนวโน้มชะลอตัวลงอย่างมีนัยสำคัญ, ราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นอย่างรุนแรง และผลกระทบจากความอ่อนแอลงของเศรษฐกิจในกลุ่มตลาดเกิดใหม่

"กรรมการเฟดมองว่า หากข้อพิพาททางการค้ายังคงยืดเยื้อต่อไป ก็อาจจะส่งผลกระทบต่อบรรยากาศการลงทุนในภาคธุรกิจ, การใช้จ่ายด้านการลงทุน และการจ้างงาน นอกจากนี้ มาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าอาจจะส่งผลให้อำนาจซื้อของภาคครัวเรือนสหรัฐลดน้อยลง และจะทำให้ผลกระทบนี้ลุกลามไปยังภาคส่วนอื่นๆ รวมถึงประสิทธิภาพด้านการผลิตและห่วงโซ่อุปทาน" รายงานการประชุมเฟดระบุ

สำหรับการประชุมซึ่งมีขึ้นเมื่อวันที่ 31 ก.ค.-1 ส.ค.ที่ผ่านมานั้น คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐมีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 1.75-2.00% พร้อมกับออกแถลงการณ์ภายหลังการประชุมว่า เศรษฐกิจมีการขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง ขณะที่ตลาดแรงงานยังคงแข็งแกร่ง ส่วนอัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่ใกล้ระดับเป้าหมายของเฟดที่ 2% นับตั้งแต่การประชุมในเดือนมิ.ย.