ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ออกแถลงการณ์ภายหลังการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ซึ่งเสร็จสิ้นลงเมื่อวานนี้ (26 ก.ย.) โดยระบุว่า ข้อมูลที่ได้รับนับตั้งแต่ที่คณะกรรมการ FOMC ประชุมกันในเดือนส.ค.บ่งชี้ว่า ตลาดแรงงานยังคงมีความแข็งแกร่ง และกิจกรรมทางเศรษฐกิจปรับตัวขึ้นในระดับที่แข็งแกร่งเช่นกัน ส่วนการขยายตัวของการจ้างงานในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมานั้น โดยเฉลี่ยมีความแข็งแกร่ง และอัตราว่างงานยังคงอยู่ในระดับต่ำ ขณะที่การใช้จ่ายภาคครัวเรือนและการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง
ส่วนตัวเลขเงินเฟ้อรายปี ทั้งอัตราเงินเฟ้อทั่วไป และอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานที่ไม่นับรวมราคาในหมวดอาหารและพลังงาน ยังคงอยู่ใกล้ระดับ 2% ขณะที่ข้อมูลที่ได้จากการสำรวจการคาดการณ์เงินเฟ้อระยะยาวบ่งชี้ว่า มีการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อย
คณะกรรมการ FOMC มุ่งมั่นที่จะสนับสนุนการจ้างงานให้เติบโตอย่างเต็มที่และหนุนราคาให้มีเสถียรภาพ คณะกรรมการคาดว่า การเดินหน้าปรับขึ้นกรอบเป้าหมายอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นอย่างค่อยเป็นค่อยไปนั้น จะสอดคล้องกับกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่องและภาวะตลาดแรงงานที่มีความแข็งแกร่ง รวมทั้งอัตราเงินเฟ้อที่เคลื่อนตัวเข้าใกล้ระดับ 2% ซึ่งเป็นเป้าหมายในระยะกลางของคณะกรรมการ FOMC ขณะที่แนวโน้มความเสี่ยงของเศรษฐกิจยังคงมีความสมดุล
เมื่อพิจารณาถึงภาวะตลาดแรงงานและเงินเฟ้อที่เป็นไปตามการคาดการณ์แล้ว คณะกรรมการได้ตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.25% สู่ระดับ 2.00-2.25%
ในการตัดสินใจเกี่ยวกับช่วงเวลาและขนาดในการปรับกรอบเป้าหมายอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นในอนาคตนั้น ทางคณะกรรมการจะประเมินภาวะเศรษฐกิจทั้งในแง่ของความเป็นจริงและการคาดการณ์ ซึ่งเกี่ยวเนื่องกับเป้าหมายของการจ้างงานสูงสุดและเงินเฟ้อที่ระดับ 2% การประเมินนี้จะพิจารณาข้อมูลในวงกว้าง ซึ่งรวมถึงมาตรวัดภาวะตลาดแรงงาน ปัจจัยชี้วัดเกี่ยวกับแรงกดดันด้านเงินเฟ้อและการคาดการณ์เงินเฟ้อ และการพิจารณาถึงความคืบหน้าทางการเงินและสถานการณ์ในต่างประเทศ
กรรมการเฟดผู้ที่ออกเสียงสนับสนุนการดำเนินนโยบายการเงินของ FOMC ได้แก่ เจอโรม เอช พาวเวล ประธานเฟด, จอห์น ซี วิลเลียม รองประธานเฟด, โธมัส ไอ บาร์คิน, ราฟาเอล ดับเบิลยู บอสติก, ลาเอล เบรนาร์ด, ริชาร์ด เอช คลาริดา, เอสเธอร์ แอล จอร์จ, ลอเร็ตตา เจ เมสเตอร์ และ แรนดัล เค. ควอร์เลส