"พาวเวล" เผยภาคเอกชนสหรัฐกังวลผลกระทบมาตรการภาษีนำเข้า แต่คาดไม่หนุนอัตราเงินเฟ้อพุ่ง

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday September 27, 2018 08:27 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนหลังจากการประชุมนโยบายการเงินของเฟดเสร็จสิ้นลงเมื่อวานนี้ว่า บริษัทเอกชนของสหรัฐได้แสดงความวิตกกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับผลกระทบของมาตรการจัดเก็บภาษีนำเข้า และสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน

"เราได้รับรู้ถึงความวิตกกังวลจากภาคธุรกิจทั่วประเทศ เกี่ยวกับผลกระทบที่เกิดขึ้นกับห่วงโซ่อุปทาน รวมทั้งต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้น หากสถานการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นต่อไปเป็นเวลานาน ซึ่งรวมถึงการที่ประเทศต่างๆพากันออกมาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าเป็นวงกว้างนั้น ย่อมไม่เป็นผลดีต่อเศรษฐกิจสหรัฐอย่างแน่นอน" นายพาวเวลกล่าว

เมื่อผู้สื่อข่าวถามความเห็นว่า มาตรการเก็บภาษีนำเข้าของรัฐบาลสหรัฐจะส่งผลกระทบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ และหนุนอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐหรือไม่ นายพาวเวลตอบว่า "นี่เป็นเรื่องที่เรากังวล และถือเป็นปัจจัยเสี่ยง เพราะอาจทำให้ราคาปรับตัวสูงขึ้น มาตรการภาษีจะส่งผลให้บริษัทเอกชนพากันปรับขึ้นราคาสินค้า แม้ในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจทั่วโลกไม่เอื้ออำนวยต่อการปรับขึ้นราคาสินค้าก็ตาม อย่างไรก็ดี จนถึงขณะนี้ เรายังไม่พบว่าอัตราเงินเฟ้อพุ่งสูงขึ้น และเราไม่คาดว่าจะเกิดขึ้น แต่หากเป็นเช่นนั้น เฟดก็จำเป็นต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรวดเร็วขึ้น เพื่อรับมือกับสถานการณ์เงินเฟ้อ"

ในการประชุมนโยบายการเงินครั้งนี้ คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐมีมติเป็นเอกฉันท์ให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.25% สู่ระดับ 2.00-2.25% พร้อมส่งสัญญาณว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกในเดือนธ.ค.

นอกจากนี้ ในแถลงการณ์หลังการประชุม เฟดได้ตัดข้อความ "จุดยืนด้านนโยบายการเงินของเฟดยังคงมีความผ่อนคลาย" ซึ่งเป็นข้อความที่มักปรากฏในแถลงการณ์ของเฟดในช่วงที่ผ่านมา

อย่างไรก็ดี นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด กล่าวในการแถลงข่าวว่า การที่เฟดตัดข้อความดังกล่าว ไม่ได้เป็นการส่งสัญญาณถึงการเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงินแต่อย่างใด


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ