รายงานประชุมชี้เฟดส่งสัญญาณเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อไป มุ่งหนุนศก.เติบโตต่อเนื่อง

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday October 18, 2018 06:11 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานการประชุมประจำวันที่ 25-26 ก.ย. โดยระบุว่า กรรมการเฟดส่วนใหญ่มีความเห็นตรงกันว่า เฟดจำเป็นต้องเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจให้ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง

"กรรมการเฟดส่วนใหญ่เห็นพ้องว่า การเดินหน้าปรับขึ้นกรอบเป้าหมายอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น (fed fund rates) อย่างค่อยเป็นค่อยไปนั้น จะสอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง และภาวะตลาดแรงงานที่มีความแข็งแกร่ง รวมทั้งอัตราเงินเฟ้อที่เคลื่อนตัวเข้าใกล้ระดับ 2% ซึ่งเป็นเป้าหมายในระยะกลางของคณะกรรมการกำหนดโยบายการเงิน (FOMC)" รายงานการประชุมระบุ

นอกจากนี้ รายงานการประชุมยังระบุว่า กรรมการเฟดได้หารือกันเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยในอนาคต โดยกล่าวว่า เฟดอาจจำเป็นต้องดำเนินนโยบายคุมเข้มทางการเงินต่อไปแม้ในช่วงเวลาที่อัตราดอกเบี้ยกลับสู่ภาวะปกติแล้ว ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวจะสามารถควบคุมอัตราเงินเฟ้อที่ดีดตัวสูงขึ้นอันเนื่องมาจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด และเพื่อป้องกันความเสี่ยงที่เป็นผลมาจากภาวะไร้สมดุลทางการเงิน

สำหรับการประชุมเมื่อวันที่ 25-26 ก.ย.ที่ผ่านมานั้น คณะกรรมการเฟดมีมติเป็นเอกฉันท์ให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.25% สู่ระดับ 2.00-2.25% พร้อมกับส่งสัญญาณว่าจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค. หลังจากปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค.,มิ.ย. และในเดือนก.ย. ซึ่งจะส่งผลให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรวม 4 ครั้งในปีนี้ ส่วนในปีหน้า เฟดยังคงส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้ง

ในการประชุมครั้งนี้ เฟดยังได้ปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐในปีนี้ สู่ระดับ 3.1% จากเดิมที่ 2.8% และปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์ในปีหน้าสู่ระดับ 2.5% จากเดิมที่ 2.4% ส่วนการขยายตัวในปี 2563 ยังคงอยู่ที่ระดับ 2% ขณะที่คาดการณ์ว่าอัตราการขยายตัวในปี 2564 จะอยู่ที่ 1.8% เช่นเดียวกับอัตราการขยายตัวในระยะยาว

นอกจากนี้ เฟดได้คงคาดการณ์ตัวเลขเงินเฟ้อในปีนี้ที่ระดับ 2.10% และปรับลดตัวเลขคาดการณ์เงินเฟ้อในปีหน้าสู่ระดับ 2.0% จากเดิมที่ระดับ 2.10% และคงตัวเลขเงินเฟ้อในปี 2563 ที่ระดับ 2.1% และคาดการณ์ตัวเลขเงินเฟ้อในปี 2564 ที่ระดับ 2.10% ส่วนตัวเลขเงินเฟ้อระยะยาวยังคงอยู่ที่ระดับ 2.0%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ