นายริชาร์ด แคลริดา รองประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คนใหม่ กล่าวสนับสนุนการเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด เนื่องจากเศรษฐกิจยังคงมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ขณะที่การจ้างงานมีความแข็งแกร่ง
ในการประชุมเมื่อวันที่ 25-26 ก.ย.ที่ผ่านมา คณะกรรมการเฟดมีมติเป็นเอกฉันท์ให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.25% สู่ระดับ 2.00-2.25% พร้อมกับส่งสัญญาณขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค. หลังจากปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค.,มิ.ย. และในเดือนก.ย. ซึ่งจะส่งผลให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรวม 4 ครั้งในปีนี้ ส่วนในปีหน้า เฟดยังคงส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้ง
นายแคลริดากล่าวว่า นโยบายการเงินของเฟดยังคงมีความผ่อนคลาย
อย่างไรก็ดี นายแคลริดากล่าวเตือนถึงความเสี่ยงในการรอนานเกินไปในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งการที่อัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำกว่าระดับที่เป็นกลาง จะทำให้เงินเฟ้อทะยานขึ้นมากเกินไป
นายแคลริดายอมรับว่า แรงกดดันเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับต่ำ แม้ว่าตลาดแรงงานเริ่มตึงตัว และค่าจ้างดีดตัวขึ้น
นอกจากนี้ ประธานเฟดยังระบุว่า เศรษฐกิจยังมีแนวโน้มขยายตัวขึ้นต่อไป และอัตราการออมที่เพิ่มขึ้นบ่งชี้ว่าผู้บริโภคมีกำลังซื้อมากขึ้น ขณะที่มาตรการปรับลดอัตราภาษีของรัฐบาลสหรัฐได้ช่วยจูงใจให้ภาคธุรกิจลงทุนมากขึ้น