นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวเมื่อวานนี้ว่า อัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟดกำลังเข้าใกล้ระดับที่เป็นกลาง ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
"อัตราดอกเบี้ยยังคงอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบตามมาตรฐานในช่วงที่ผ่านมา และอยู่ต่ำกว่าเพียงเล็กน้อยจากระดับที่เป็นกลางต่อเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นระดับที่ไม่ได้กระตุ้น หรือชะลอการขยายตัวของเศรษฐกิจ" นายพาวเวลกล่าวที่สมาคมเศรษฐกิจแห่งนิวยอร์ก
ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ยระยะสั้นในขณะนี้อยู่ที่ระดับ 2.00-2.25% และมีการคาดการณ์กันว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% ในเดือนธ.ค. ก่อนที่จะปรับขึ้นอีก 3 ครั้งในปีหน้า และปรับขึ้น 1 ครั้งในปี 2563
การแสดงความเห็นเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยของนายพาวเวลในครั้งนี้ สอดคล้องกับนายริชาร์ด แคลริดา รองประธานเฟด ซึ่งกล่าวก่อนหน้านี้ว่า อัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟดกำลังเข้าใกล้ระดับที่เป็นกลาง เมื่อเปรียบเทียบกับในช่วงที่เฟดเริ่มต้นวงจรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค.2558
นอกจากนี้ คำกล่าวของนายพาวเวลเมื่อวานนี้ยังแตกต่างจากในเดือนต.ค. ซึ่งเขาระบุว่า อัตราดอกเบี้ยยังคงอยู่ห่างไกลจากระดับที่เป็นกลาง ซึ่งส่งผลให้ตลาดหุ้นทรุดตัวลงอย่างหนัก เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่า คำกล่าวของนายพาวเวลเป็นการส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป และจะกระทบต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐ
นอกจากนี้ นายพาวเวลยังได้ระบุเมื่อวานนี้ว่า คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ไม่ได้มีการกำหนดนโยบายล่วงหน้าว่าอัตราดอกเบี้ยควรอยู่ในระดับใด และจะทำการตัดสินใจด้านนโยบายการเงินตามพัฒนาการทางเศรษฐกิจ และสภาวะทางการเงิน
ในการกล่าวสุนทรพจน์เมื่อวานนี้ นายพาวเวลไม่ได้กล่าวถึงการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้แสดงความไม่พอใจต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด แต่นายพาวเวลได้ระบุถึงเศรษฐกิจสหรัฐว่าได้ปรับตัวอย่างดี โดยมีการขยายตัวสูงกว่า 3% ขณะที่อัตราเงินเฟ้อถูกควบคุมอยู่ภายในเป้าหมายของเฟดที่ 2%
ในเรื่องเกี่ยวกับตลาดหุ้นนั้น นายพาวเวลกล่าวว่า ราคาหุ้นในขณะนี้อยู่ในระดับปกติ และเฟดไม่ได้เห็นความอันตรายที่เกิดจากราคาหุ้นที่พุ่งขึ้นมากเกินไป
อย่างไรก็ดี นายพาวเวลระบุเตือนเกี่ยวกับการก่อหนี้ในระดับสูงของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ และภาคเอกชนที่มีความเสี่ยงสูง