ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ได้เปิดเผยรายงานการประชุมนโยบายการเงินประจำวันที่ 30-31 ต.ค. ซึ่งเผยให้เห็นความคิดเห็นที่ไม่ตรงกันของคณะกรรมการกำหนดนโยบายในเรื่องอัตราผลตอบแทนพันธบัตร
รายงานดังกล่าวระบุว่า กรรมการรายหนึ่งได้เสนอให้ BOJ ปรับกรอบการเคลื่อนไหวของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรให้กว้างขึ้น เพื่อให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรเคลื่อนไหวได้ยืดหยุ่นขึ้น
นอกจากนี้ กรรมการรายเดียวกันนี้ยังได้เสนอให้มีการเปลี่ยนเป้าหมายผลตอบแทนพันธบัตร ให้เป็นผลตอบแทนพันธบัตรที่มีอายุน้อยลงด้วย จากปัจจุบันที่กำหนดไว้ที่ผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี
อย่างไรก็ดี กรรมการอีกรายหนึ่งได้โต้แย้งว่า การปล่อยให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรเคลื่อนไหวได้ยืดหยุ่นนั้น อาจกระทบต่อเงินเฟ้อซึ่งปัจจุบันยังคงอยู่ในระดับต่ำ และอาจส่งผลให้เงินเฟ้อไม่โตตามเป้าหมายของแบงก์ชาติ
สำหรับการประชุม BOJ เมื่อวันที่ 30-31 ต.ค. ที่ผ่านมานั้น ธนาคารกลางญี่ปุ่น มีมติคงอัตราดอกเบี้ยและวงเงินซื้อสินทรัพย์ ท่ามกลางสถานการณ์เงินเฟ้อที่อยู่ในระดับต่ำ และความเสี่ยงที่จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก ซึ่งรวมถึงความตึงเครียดด้านการค้าที่สูงขึ้น
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า คณะกรรมการบริหารของธนาคารกลางญี่ปุ่นได้ลงคะแนนเสียง 7 ต่อ 2 ให้คงผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวไว้ใกล้ระดับศูนย์ และเปิดทางไว้สำหรับความเคลื่อนไหวที่ยืดหยุ่น และยังมีมติให้คงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นไว้ที่ระดับติดลบ 0.1%
นายฮารุฮิโกะ คุโรดะ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น ได้กล่าวในระหว่างการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนภายหลังการประชุมว่า BOJ มีแนวทางหลายอย่างในการรับมือหากภาวะเศรษฐกิจอ่อนแรงลง
ส่วนในด้านเงินเฟ้อนั้น นายคุโรดะแสดงความเห็นว่า แรงกระตุ้นเงินเฟ้อยังคงมีอยู่ แม้ BOJ ได้ปรับลดแนวโน้มเงินเฟ้อลงก็ตาม