นายนเรนทรา โมดี นายกรัฐมนตรีอินเดีย เปิดเผยว่า นายอูร์จิต ปาเทล อดีตผู้ว่าการธนาคารกลางอินเดีย ได้แจ้งต่อเขาเกี่ยวกับความประสงค์ในการลาออกจากตำแหน่ง หลายเดือนก่อนที่เขาจะประกาศลาออกในเดือนธ.ค.ปีที่แล้ว
"ท่านผู้ว่าการฯได้แจ้งต่อผมเกี่ยวกับความต้องการในการลาออกจากตำแหน่ง เนื่องจากเหตุผลส่วนตัว โดยท่านได้เขียนจดหมายส่วนตัวถึงผมเป็นเวลา 6-7 เดือนก่อนที่จะตัดสินใจลาออก" นายโมดีกล่าวในการให้สัมภาษณ์ต่อสื่อในวันนี้
ต่อข้อถามที่ว่า นายปาเทลถูกรัฐบาลกดดันให้ลาออกหรือไม่ นายโมดีกล่าวว่า "ไม่มีเรื่องเช่นนี้ โดยผมยอมรับว่าคุณปาเทลทำงานได้ดีในตำแหน่งผู้ว่าการธนาคารกลางอินเดีย"
อย่างไรก็ดี เป็นที่ทราบกันโดยทั่วไปว่า รัฐบาลอินเดียและธนาคารกลางอินเดียต่างก็มีความขัดแย้งกันเกี่ยวกับนโยบายการเงิน และความเป็นอิสระของธนาคารกลาง ขณะที่รัฐบาลหวังที่จะเข้าใช้ทุนสำรองของธนาคารกลางที่มีเป็นจำนวนมาก
รัฐบาลอินเดียออกแถลงการณ์ผ่านทางกระทรวงการคลังในวันที่ 31 ต.ค.ในปีที่แล้ว โดยเน้นย้ำว่า ความเป็นอิสระของธนาคารกลางอินเดียถือเป็นเรื่องที่สำคัญ และรัฐบาลจะยังคงทำการปรึกษาหารือกับธนาคารกลางเพื่อให้มุมมองเกี่ยวกับประเด็นต่างๆ และแนะนำทางออกที่เป็นไปได้
ความตึงเครียดระหว่างธนาคารกลางอินเดียและรัฐบาลได้ปรากฎชัดเจนเมื่อกลางเดือนต.ค. หลังจากที่นายไวราล อาชาร์ยา รองผู้ว่าการธนาคารกลาง กล่าวว่า การบ่อนทำลายอิสรภาพของธนาคารกลางถือเป็นหายนะครั้งใหญ่ ขณะที่รัฐบาลพยายามลดอำนาจของธนาคารกลาง และกดดันให้ธนาคารกลางผ่อนคลายนโยบายการเงินก่อนการเลือกตั้งทั่วไปในเดือนพ.ค.2562
นอกจากนี้ นายอรุณ เจทลีย์ รมว.คลังอินเดีย ยังได้ตำหนิธนาคารกลางที่ไม่ได้สกัดกระแสการปล่อยสินเชื่อในช่วงปี 2551-2557 ซึ่งส่งผลให้ภาคธนาคารมีหนี้เสียมากถึง 1.50 แสนล้านดอลลาร์
ขณะเดียวกัน สื่อระบุว่า รัฐบาลอินเดียได้ใช้อำนาจภายใต้มาตรา 7 ของพรบ.ธนาคารกลางอินเดีย ซึ่งจะทำให้รัฐบาลสามารถสั่งการผู้ว่าการธนาคารกลางในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ของประชาชน