นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้กล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมที่สมาคมเศรษฐกิจแห่งกรุงวอชิงตันเมื่อวานนี้ว่า เฟดสามารถยืดหยุ่นและมีความอดทนต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และเฟดสามารถปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินตามขอบเขตที่สมควร หากเศรษฐกิจมีแนวโน้มย่ำแย่ลง
นายพาวเวลยังกล่าวด้วยว่า "เมื่อพิจารณาจากอัตราเงินเฟ้อในปัจจุบันซึ่งอยู่ในระดับต่ำและสามารถควบคุมได้ เฟดก็สามารถอดทน และติดตามสถานการณ์ทางเศรษฐกิจด้วยความอดทนและระมัดระวัง"
นายพาวเวลยังได้กล่าวถึงกรณีที่กรรมการหลายคนของเฟดได้ออกมาคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้ โดยนายพาวเวลกล่าวว่า "เรายังไม่มีแผนที่ตายตัวในเรื่องนี้ แต่หากเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้ ก็จะตั้งอยู่บนเงื่อนไขที่ว่า แนวโน้มเศรษฐกิจในปี 2562 จะต้องแข็งแกร่งมาก และผมเชื่อว่าแนวโน้มดังกล่าวยังคงมีโอกาสที่จะเกิดขึ้น"
ในการกล่าวสุนทรพจน์ครั้งนี้ นายพาวเวลได้กล่าวถึงกรณีที่หน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐถูกปิดการดำเนินงานชั่วคราวเนื่องจากขาดงบประมาณ หรือชัตดาวน์ ว่า หากสถานการณ์ชัตดาวน์ยืดเยื้อออกไป ผลกระทบก็จะปรากฏให้เห็นอย่างรวดเร็วและชัดเจนผ่านทางข้อมูลเศรษฐกิจ พร้อมระบุว่า ความยืดเยื้อของภาวะชัตดาวน์จะส่งผลให้แนวโน้มเศรษฐกิจไร้ทิศทาง
ส่วนในเรื่องงบดุลบัญชีของเฟดนั้น นายพาวเวลกล่าวว่า เฟดจะยังคงปรับลดงบดุลลงจากระดับปัจจุบัน ซึ่งจะทำให้เม็ดเงินที่ไหลเข้าสู่ตลาดมีปริมาณลดลง โดยถ้อยแถลงดังกล่าวนับเป็นการส่งสัญญาณว่า เฟดยังคงมีเป้าหมายที่จะคุมเข้มนโยบายการเงินต่อไป
นอกจากนี้ นายพาวเวลยังได้แสดงความเห็นเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐว่า เขาเชื่อว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะไม่เข้าสู่ภาวะถดถอยในปีนี้ แม้ตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจอ่อนแอลงก็ตาม
"เศรษฐกิจสหรัฐยังคงมีแนวโน้มที่ดีในปีนี้" นายพาวเวลกล่าว พร้อมกับเสริมว่า ภาวะถดถอยจะเกิดขึ้นจาก 2 ปัจจัย คืออัตราเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นและภาวะสบู่แตกที่เกิดขึ้นกับสินทรัพย์ประเภทต่างๆ ซึ่งจนถึงขณะนี้ เขายังไม่พบว่าเศรษฐกิจสหรัฐเผชิญกับ 2 ปัจจัยนี้