ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ได้เริ่มการประชุม ซึ่งจัดขึ้นเป็นเวลา 2 วันแล้วในวันนี้ โดยมีการคาดการณ์ว่า คณะกรรมการบริหารของ BOJ จะปรับลดคาดการณ์เงินเฟ้อของปีงบประมาณ 2562 ลง ซึ่งจะทำให้การบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อที่ระดับ 2% เป็นเรื่องที่ห่างไกลออกไป
สำนักข่าวเกียวโดรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า นายฮารุฮิโกะ คุโรดะ ผู้ว่าการ BOJ และบอร์ดมีแนวโน้มว่า จะคาดการณ์ราคาขยายตัวขึ้นประมาณ 1% ในช่วงปีงบประมาณที่จะเริ่มขึ้นในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นตัวเลขที่ลดลงจากระดับ 1.4% ตามที่ได้คาดการณ์ไว้ในเดือนต.ค. เนื่องจากราคาน้ำมันตลาดโลกที่ร่วงลง
ด้วยเหตุที่เงินเฟ้อมีแนวโน้มว่าจะอยู่ที่ระดับต่ำกว่าเป้าหมาย จึงคาดว่าบอร์ด BOJ จะคงมาตรการกระตุ้นด้านการเงินไว้ รวมทั้งคงอัตราดอกเบี้ยให้อยู่ที่ระดับต่ำเป็นประวัติการณ์และคงโครงการซื้อสินทรัพย์
ทั้งนี้ ราคาผู้บริโภคพื้นฐาน ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่สำคัญและไม่นับรวมราคาอาหารสดเพราะความผันผวนนั้น ปรับตัวขึ้นอย่างช้าๆในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา โดยขยับขึ้นเพียง 0.7% ในเดือนธ.ค. เมื่อเทียบเป็นรายปี
บอร์ดทั้ง 9 ราย จะหารือกันว่า การปรับลดคาดการณ์เงินเฟ้อของปีงบประมาณ 2563 นั้น เป็นเรื่องที่จำเป็นหรือไม่
การประชุมบอร์ดครั้งแรกของปีนี้ เกิดขึ้นในช่วงภาวะวิกฤต เนื่องจากความตึงเครียดด้านการค้าระหว่างจีนและสหรัฐมีแนวโน้มว่าจะส่งผลกระทบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก รวมทั้งดีมานด์สินค้าส่งออกของญี่ปุ่น นอกจากนี้ การปรับขึ้นภาษีอุปโภคบริโภคในเดือนต.ค.นี้ ก็จะส่งผลกระทบต่อดีมานด์ภายในประเทศด้วยเช่นกัน
ความเสี่ยงเหล่านี้ทำให้การถอนมาตรการด้านการเงินเป็นเรื่องที่ลำบาก ทั้งที่ได้มีการใช้มาตรการนี้มาเกือบ 6 ปีแล้วก็ตาม แม้ว่าจะมีความกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับผลกระทบข้างเคียงมากยิ่งขึ้น อาทิ กำไรที่หดตัวลงของธนาคารพาณิชย์ต่างๆ