นางลอเรตตา เมสเตอร์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาคลีฟแลนด์ เปิดเผยว่า เฟดอาจต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย หากเศรษฐกิจสหรัฐยังคงเติบโตอย่างที่คาดการณ์ไว้ แม้ก่อนหน้านี้เฟดได้ส่งสัญญาณชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยก็ตาม
นางเมสเตอร์ เปิดเผยว่า เศรษฐกิจสหรัฐกำลังอยู่ในจุดที่ดี และน่าจะขยายตัว 2-2.5% ในปีนี้ ซึ่งแม้ชะลอตัวลงจากปีก่อนหน้า แต่น่าจะดีพอที่จะไม่ทำให้อัตราว่างงานพุ่งสูงขึ้น ขณะที่เงินเฟ้อน่าจะใกล้เป้าหมายของเฟดที่ 2%
อย่างไรก็ดี นางเมสเตอร์ได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับปัจจัยเสี่ยงต่อเศรษฐกิจสหรัฐ ไม่ว่าจะในเรื่องนโยบายการค้า ทิศทางเศรษฐกิจโลก ภาวะการเงินที่ตึงตัวยิ่งขึ้น และความเชื่อมั่นภาคครัวเรือนที่ลดลง โดยนางเมสเตอร์ ระบุว่า หากปัจจัยเสี่ยงเหล่านี้เกิดขึ้นจริงจนทำให้เศรษฐกิจสหรัฐอ่อนแรงลงแล้ว เธออาจต้องประเมินนโยบายเสียใหม่
ทั้งนี้ ในการประชุมรอบล่าสุด คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติเป็นเอกฉันท์ในการคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 2.25-2.50% ซึ่งเป็นการประชุมครั้งแรกของเฟดในปีนี้ ตามที่ตลาดการเงินคาดการณ์ไว้
ขณะเดียวกัน แถลงการณ์ของเฟดได้ตัดข้อความ "เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป" ซึ่งเป็นถ้อยคำที่บ่งชี้ถึงการส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด และเฟดได้ทดแทนด้วยข้อความที่ว่า "เฟดกำลังดำเนินแนวทางที่มีความระมัดระวังมากขึ้น" ซึ่งบ่งชี้ถึงการเปลี่ยนแปลงจากนโยบายเดิมที่เฟดใช้ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา