ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เตรียมทำการทดสอบภาวะวิกฤต (stress test) สำหรับธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ในปีนี้ โดยมีเป้าหมายเพื่อให้เกิดความโปร่งใสมากขึ้น โดยเฟดได้ให้ข้อมูลมากขึ้นอย่างมากต่อบรรดาสถาบันการเงินเกี่ยวกับวิธีการดำเนินงานของธนาคารภายใต้แนวโน้มที่อาจจะเกิดวิกฤตทางเศรษฐกิจ
ในการทดสอบภาวะวิกฤตประจำปีนี้ ธนาคารขนาดใหญ่จะได้รับรู้ข้อมูลเพิ่มขึ้นอย่างมากเกี่ยวกับโมเดลที่เฟดจะใช้ในการทดสอบด้านการบัญชีของธนาคาร รวมถึงวิธีการทดสอบสมมติฐานด้านการปล่อยสินเชื่อ รวมถึงข้อมูลที่มีรายละเอียดมากขึ้นเกี่ยวกับโมเดลของเฟด
การทดสอบในปีนี้จะรวมปัจจัยอัตราการว่างงานที่พุ่งขึ้นจากปัจจุบันที่ระดับ 4% เป็น 10% รวมถึงภาวะตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นในด้านสินเชื่อภาคธุรกิจและตลาดอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์ในสถานการณ์ที่รุนแรงที่สุดด้วย
การทดสอบเพื่อสร้างความโปร่งใส ซึ่งเฟดเสนอขึ้นเป็นครั้งแรกในเดือนธ.ค.ปี 2560 และมีการสรุปเมื่อวานนี้นั้น มีเป้าหมายเพื่อตอบรับต่อการร้องเรียนของธนาคารต่างๆมานานแล้วว่า กระบวนการทดสอบภาวะวิกฤตในปัจจุบันนั้นยุ่งยากและไม่ชัดเจน
นอกจากนี้ ธนาคารต่างๆ ที่มีความซับซ้อนน้อยกว่าโดยมีสินทรัพย์ระหว่าง 1-2.50 แสนล้านดอลลาร์ อาทิ ธนาคารซันทรัสต์ แบงก์แ ละธนาคารฟิฟธ์ เธิร์ด บันคอร์ป จะไม่ต้องเผชิญกับการทดสอบภาวะวิกฤติในปีนี้ เนื่องจากเฟดจะใช้รอบระยะเวลา 2 ปีสำหรับการทดสอบธนาคารเหล่านั้น
อุตสาหกรรมธนาคารได้ติดตามเรื่องของการทดสอบภาวะวิกฤตอย่างใกล้ชิด ขณะที่เจ้าหน้าที่เฟดระบุว่าพวกเขาต้องการให้การทดสอบมีความสะดวกมากขึ้น หลังจากที่ธนาคารต่างๆ ร้องเรียนว่า การทดสอบรอบก่อนหน้านี้มีความเข้มงวดและใช้ทรัพยากรมากเกินไป
ทั้งนี้ ขั้นตอนที่เฟดจะใช้เพื่อให้การทดสอบมีความโปร่งใสมากขึ้นนั้นควรจะจัดการกับความกังวลเหล่านั้น แม้ว่าผู้เสนอกฎระเบียบที่เข้มงวดเกี่ยวกับตลาดวอลล์สตรีทเตือนว่าความโปร่งใสที่มากเกินไปอาจทำให้ธนาคารต่างๆ สามารถปกปิดความเสี่ยงด้วยการเล่นเกมการทดสอบ
การทดสอบเสถียรภาพของธนาคารประจำปีนั้น เป็นการทดสอบบัญชีของธนาคารขนาดใหญ่ อาทิ เจพีมอร์แกน เชส และซิติกรุ๊ปโดยการทดสอบจะมีการตั้งสมมติฐานของการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ เพื่อให้มั่นใจว่า ธนาคารเหล่านั้นจะสามารถรับมือกับผลกระทบได้โดยไม่ล้มละลาย โดยการทดสอบมีความแตกต่างกันเล็กน้อยในแต่ละปี เนื่องจากเฟดจะทำการตรวจสอบเพื่อหาจุดอ่อนทางการเงินของธนาคารต่างๆ และมีความยากลำบากมากขึ้นเมื่อเศรษฐกิจปรับตัวดีขึ้น
ทั้งนี้ การทดสอบภาวะวิกฤติเป็นเหตุการณ์สำคัญประจำปีสำหรับภาคธนาคาร เนื่องจากธนาคารต่างๆ ไม่สามารถกระจายเงินทุนผ่านเงินปันผล การซื้อคืนหุ้น หรือการลงทุนอื่นๆ หากไม่ผ่านการทดสอบของเฟด