นางเจเน็ต เยลเลน อดีตประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้กล่าวแสดงความเห็นว่า มีความเป็นไปได้ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย หากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวเริ่มส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของสหรัฐ พร้อมกล่าวว่า เศรษฐกิจจีนและยุโรปที่ชะลอตัวลงนั้น ถือเป็นอันตรายต่อแนวโน้มของเศรษฐกิจสหรัฐเช่นกัน
ทั้งนี้ นางเยลเลนได้เปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวเมื่อวานนี้ว่า หากการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกซบเซาลงและส่งผลกระทบต่อสหรัฐ ก็มีความเป็นไปได้ว่าความเคลื่อนไหวครั้งต่อไปของเฟดจะเป็นการลดอัตราดอกบี้ย แต่ก็มีความเป็นไปได้ที่ผลลัพธ์จะออกมาทั้งสองแนวทาง
อดีตประธานเฟดระบุว่า การชะลอตัวลงของเศรษฐกิจโลกในขณะนี้ถือเป็นปัจจัยคุกคามครั้งใหญ่ที่สุดที่เธอเคยเห็นมา พร้อมกับกล่าวว่า ข้อมูลจากจีนเมื่อไม่นานมานี้ชี้ให้เห็นว่าเศรษฐกิจจีนกำลังชะลอตัวลง เช่นเดียวกับข้อมูลเศรษฐกิจของยุโรปที่ชะลอตัวลงกว่าที่คาดการณ์ไว้
ผลสำรวจซึ่งมาร์กิตทำร่วมกับไฉซินระบุว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของจีนอยู่ที่ระดับ 48.3 ในเดือนม.ค. ลดลงจากเดือนธ.ค.ซึ่งอยู่ที่ระดับ 49.7 โดยดัชนี PMI ที่เคลื่อนไหวต่ำกว่าระดับ 50 บ่งชี้ว่าภาคการผลิตของจีนอยู่ในภาวะหดตัว
ทางด้านไอเอชเอส มาร์กิต เปิดเผยว่า ดัชนี PMIรวมภาคการผลิตและบริการขั้นสุดท้ายของยูโรโซน อยู่ที่ระดับ 51.0 ในเดือนม.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค. 2556 หรือในรอบ 66 เดือน ลดลงจากระดับ 51.1 ในเดือนธ.ค.