ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานการประชุมประจำวันที่ 29-30 ม.ค. โดยระบุว่า กรรมการเฟดส่วนใหญ่เห็นพ้องกับแนวทางที่ว่า เฟดควรใช้ความอดทนต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในครั้งต่อไป ซึ่งแนวทางดังกล่าวถือเป็นขั้นตอนที่เหมาะสมในการจัดการกับความเสี่ยงและรับมือกับภาวะเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน
รายงานการประชุมซึ่งมีการเผยแพร่เมื่อวานนี้ตามเวลาสหรัฐ ระบุว่า กรรมการเฟดส่วนใหญ่มองว่า การใช้ความอดทนต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนั้น ถือเป็นแนวทางที่จะช่วยให้คณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟดมีโอกาสที่จะประเมินผลกระทบที่มีต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ อันเนื่องมาจากการที่เฟดเริ่มปรับอัตราดอกเบี้ยสู่ระดับที่เป็นกลางในช่วงที่ผ่านมา
รายงานยังระบุด้วยว่า กรรมการเฟดได้หารือกันเกี่ยวกับการยุติการปรับลดงบดุลของเฟดก่อนสิ้นปี 2562 โดยกรรมการเฟดส่วนใหญ่มองว่า เฟดควรประกาศแผนยุติการปรับลดการถือครองพันธบัตรให้สาธารณชนได้รับทราบก่อนสิ้นปีนี้ ก่อนที่การดำเนินการจะยืดเยื้อนานเกินไป ซึ่งการประกาศแผนดังกล่าวนั้น จะช่วยให้กระบวนการการปรับลดงบดุลของเฟดให้กลับสู่ภาวะปกตินั้น มีความแน่นอนมากขึ้น
ในการประชุมซึ่งมีขึ้นเมื่อวันที่ 29-30 ม.ค.ที่ผ่านมานั้น คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของเฟด มีมติเป็นเอกฉันท์ให้อัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 2.25-2.50% พร้อมออกแถลงการณ์ภายหลังการประชุมว่า เฟดจะใช้ความอดทนต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในครั้งต่อไป และในส่วนของการปรับลดงบดุลนั้น แถลงการณ์ระบุว่า เฟดพร้อมที่จะทำการพิจารณาใหม่เกี่ยวกับการปรับลดการถือครองพันธบัตรในงบดุลของเฟด หากสภาวะเศรษฐกิจบ่งชี้ถึงความจำเป็นดังกล่าว
นอกจากนี้ แถลงการณ์ในการประชุมวันดังกล่าว เฟดยังได้ตัดข้อความ "เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป" ซึ่งเป็นถ้อยคำที่บ่งชี้ถึงการส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด และเฟดได้ทดแทนด้วยข้อความที่ว่า "เฟดกำลังดำเนินแนวทางที่มีความระมัดระวังมากขึ้น" ซึ่งบ่งชี้ถึงการเปลี่ยนแปลงจากนโยบายเดิมที่เฟดใช้ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา