นายจอห์น วิลเลียมส์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์ก คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะชะลอตัวลงจนขยายตัวเพียงประมาณ 2% ในปีนี้ และการชะลอตัวลงดังกล่าวเป็นเพียง "ดุลยภาพใหม่"
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นายวิลเลียมส์ได้มีถ้อยแถลงดังกล่าวขณะกล่าวสุนทรพจน์ที่สโมสรเศรษฐกิจแห่งนิวยอร์ก (Economic Club of New York)
ปธ.เฟดนิวยอร์ก เปิดเผยว่า การชะลอตัวลงนั้นเป็นไปตามทิศทางเศรษฐกิจโลก ประกอบกับความไม่แน่นอนทางภูมิศาสตร์การเมือง และผลกระทบจากภาวะทางการเงินที่ตึงตัวยิ่งขึ้น
ขณะเดียวกัน ปัจจัยที่เข้ามาหนุน GDP ของสหรัฐจนขยายตัวเกินหลัก 3% เมื่อปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก นโยบายกระตุ้นทางการคลัง และภาวะการเงินที่เอื้ออำนวยนั้น ได้แผ่วลงแล้วในปีนี้
อย่างไรก็ดี ปธ.เฟดนิวยอร์ก กล่าวว่า "การชะลอตัวลงไม่ได้เป็นเรื่องน่าตื่นตระหนกเสมอไป แต่เป็น 'ดุลยภาพใหม่' มากกว่า"
ปธ.เฟดนิวยอร์ก เปิดเผยอีกด้วยว่า การชะลอตัวลงไม่ใช่เรื่องน่าประหลาดใจ เพราะปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจได้บ่งชี้เสมอมาว่า GDP จะชะลอตัวลงมากเมื่อเทียบกับช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990
ปธ.เฟดนิวยอร์ก ระบุว่า แม้เมื่อประเมินกรณีพื้นฐานแล้วยังมีแนวโน้มดี แต่ก็ยังคงปรากฏให้เห็นความไม่แน่นอนหลายประการ
ด้วยเหตุนี้ ทางเฟดจึงควรมีความยืดหยุ่นและติดตามข้อมูลเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิด เพื่อนำไปประเมินแนวทางปรับดอกเบี้ยต่อไป