ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่าวที่ทำเนียบขาววันนี้ว่า หากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับลดอัตราดอกเบี้ย เศรษฐกิจสหรัฐก็จะพุ่งขึ้นเหมือนจรวด
"ผมคิดว่าถ้าพวกเขาลดดอกเบี้ยลง และยุติการคุมเข้มนโยบายการเงิน โดยหันมาใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) เศรษฐกิจก็จะพุ่งขึ้นเหมือนจรวด" ปธน.ทรัมป์กล่าว
นอกจากนี้ ปธน.ทรัมป์ยังกล่าวว่า เขาเชื่อว่าเฟดกำลังทำให้เศรษฐกิจชะลอตัวลง แม้ว่าขณะนี้ไม่มีเงินเฟ้อก็ตาม
ปธน.ทรัมป์กล่าว หลังจากมีการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่พุ่งขึ้นเกินคาดของสหรัฐ
กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรพุ่งขึ้น 196,000 ตำแหน่งในเดือนมี.ค. โดยสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 175,000 ตำแหน่ง และสูงกว่าระดับ 20,000 ตำแหน่งในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.2560 ก่อนที่จะมีการปรับเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 33,000 ตำแหน่ง
ส่วนอัตราการว่างงานทรงตัวที่ระดับ 3.8% สอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
ขณะเดียวกัน ตัวเลขค่าจ้างรายชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงาน เพิ่มขึ้น 4 เซนต์ หรือ 0.1% หลังจากพุ่งขึ้น 0.4% ในเดือนก.พ.
เมื่อเทียบรายปี ตัวเลขค่าจ้างรายชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงานเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 3.2% จากระดับ 3.4% ในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย.2552
ทั้งนี้ ตัวเลขค่าจ้างรายชั่วโมงนับเป็นข้อมูลที่เฟดให้ความสำคัญเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเงินเฟ้อ
กระทรวงแรงงานสหรัฐยังได้ทบทวนปรับเพิ่มตัวเลขการจ้างงานในเดือนม.ค. โดยปรับเป็นเพิ่มขึ้น 312,000 ตำแหน่ง จากเดิมที่รายงานว่าเพิ่มขึ้น 311,000 ตำแหน่ง และทบทวนปรับเพิ่มตัวเลขจ้างงานในเดือนก.พ. โดยปรับเป็นเพิ่มขึ้น 33,000 ตำแหน่ง จากเดิมที่รายงานว่าเพิ่มขึ้น 20,000 ตำแหน่ง
กระทรวงแรงงานสหรัฐระบุว่าในเดือนมี.ค. ภาคเอกชนมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 182,000 ตำแหน่ง ขณะที่ภาครัฐจ้างงานเพิ่มขึ้น 14,000 ตำแหน่ง
ส่วนตัวเลขอัตราการเข้าสู่ตลาดแรงงานของสหรัฐ ซึ่งแสดงสัดส่วนของกำลังแรงงานต่อจำนวนประชากรทั้งหมด ลดลงสู่ระดับ 63.0% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.ปีที่แล้ว จากระดับ 63.2% ในเดือนก.พ.