ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานการประชุมประจำวันที่ 19-20 มี.ค. โดยระบุว่า คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของเฟดยังคง "ใช้ความอดทน" ก่อนที่จะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อไป
รายงานการประชุมเฟดซึ่งมีการเผยแพร่เมื่อวานนี้ตามเวลาสหรัฐระบุว่า เมื่อพิจารณาจากภาวะเศรษฐกิจและสถานการณ์การเงินทั่วโลก รวมทั้งแรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่ลดลงนั้น กรรมการเฟดจึงมีความเห็นไปในทิศทางเดียวกันว่า คณะกรรมการ FOMC ควรใช้ความอดทนในการพิจารณาเรื่องการปรับเปลี่ยนกรอบเป้าหมายของอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น (fed fund rates) ในอนาคต ซึ่งถือเป็นแนวทางอันเหมาะสมที่จะช่วยสนับสนุนผลลัพธ์ต่างๆที่คณะกรรมการต้องการ
นอกจากนี้ กรรมการเฟดส่วนใหญ่ยังส่งสัญญาณว่าจะไม่มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปี 2562
"การพิจารณาเรื่องทิศทางนโยบายการเงินในการประชุมครั้งต่อไปนั้น กรรมการเฟดส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า แนวโน้มเศรษฐกิจในวันข้างหน้าและความเสี่ยงที่จะส่งผลกระทบต่อแนวโน้มเศรษฐกิจนั้น อาจเป็นหลักฐานยืนยันว่า เฟดควรจะคงเป้าหมายอัตราดอกเบี้ยเอาไว้ที่ระดับเดิมในปีนี้" รายงานการประชุมระบุ
อย่างไรก็ตาม กรรมการเฟดบางคนมองว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นสิ่งที่เหมาะสม หากเศรษฐกิจขยายตัวในอัตราที่สูงกว่าปกติ ขณะที่กรรมการเฟดอีกจำนวนหนึ่งกล่าวว่า การพิจารณากรอบเป้าหมายอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นนั้น ควรคำนึงถึงข้อมูลที่เฟดที่ได้รับและความคืบหน้าในด้านอื่นๆด้วย
"กรรมการเฟดจำนวนหนึ่งมองว่า หากเศรษฐกิจมีการขยายตัวตามที่คาดการณ์ไว้ในปัจจุบัน ซึ่งหมายถึงการขยายตัวในอัตราที่สูงกว่าแนวโน้มระยะยาว ก็เป็นเรื่องเหมาะสมที่เฟดจะปรับเพิ่มกรอบเป้าหมายอัตราดอกเบี้ยในระดับปานกลางในปีนี้" รายงานการประชุมเฟดระบุ
สำหรับการประชุมซึ่งมีขึ้นเมื่อวันที่ 19-20 มี.ค.ที่ผ่านมานั้น คณะกรรมการ FOMC มีมติเป็นเอกฉันท์ในการคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 2.25-2.50% พร้อมกับส่งสัญญาณว่าจะไม่มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ จากเดิมที่ระบุในการประชุมเดือนธ.ค.ปีที่แล้วว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้ ส่วนในปีหน้า เฟดส่งสัญญาณว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียง 1 ครั้ง ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงจากที่ระบุไว้ในการประชุมเดือนธ.ค.ปีที่แล้ว