นายโรเบิร์ต แคปแลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาดัลลัส ได้กล่าวเตือนเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ย โดยระบุว่า เขามีความวิตกกังวลว่า การเพิ่มมาตรการกระตุ้นด้านการเงินในเวลานี้ จะก่อให้เกิดส่วนเกินและความไม่สมดุลทางเศรษฐกิจ ซึ่งอาจจะสร้างปัญหาและยากที่จะจัดการได้ในท้ายที่สุด
นายแคปแลนกล่าวว่า สมมติฐานของตนเองอยู่ที่การขยายตัวทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งในปีนี้ และตลาดแรงงานที่ยังคงอยู่ที่ระดับหรือมากกว่าระดับที่มีการจ้างงานอย่างเต็มที่ นอกจากนี้ ภาวะการเงินรวมถึงต้นทุนและปริมาณสินเชื่อ ก็อยู่ในระดับที่แข็งแกร่งอย่างมากเมื่อเทียบกับมาตรฐานทางประวัติศาสตร์
การเตือนของนายแคปแลนตรงข้ามกับการคาดการณ์ในตลาดการเงินที่ว่า การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดในเดือนก.ค.เป็นสิ่งที่กำหนดไว้แล้ว
สัญญาอัตราดอกเบี้ยล่วงหน้าบ่งชี้ว่า บรรดานักลงทุนคาดว่า มีความเป็นไปได้เกือบ 100% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ค. โดยนักลงทุนบางรายคาดว่าเฟดอาจจะปรับลดดอกเบี้ยลงมากถึง 0.5% หลังนายนีล แคชแครี ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขามินนีอาโพลิส เปิดเผยว่า จะลงมติให้เฟดอาจปรับลดดอกเบี้ยลง 0.50%
นายแคปแลน ซึ่งไม่ได้เป็นกรรมการที่มีสิทธิลงมติกำหนดนโยบายเฟดในปีนี้นั้น ยอมรับว่า ความตึงเครียดด้านการค้าและความไม่แน่นอนเพิ่มสูงขึ้นมากในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลกระทบต่อการลงทุนทางธุรกิจ และทำให้ผลผลิตชะลอตัว โดยระบุว่า ความเสี่ยงขาลงต่อแนวโน้มเศรษฐกิจได้เพิ่มสูงขึ้นเช่นกัน