ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า การทดสอบสำหรับความแข็งแกร่งทางการเงิน (Stress Test) ของธนาคารขนาดใหญ่ที่สุด 18 แห่งในสหรัฐบ่งชี้ว่า ธนาคารแต่ละแห่งมีเงินทุนเพียงพอที่สมควรจะจ่ายเงินปันผลบางส่วนให้กับผู้ถือหุ้น
การทดสอบดังกล่าวเป็นการประเมินว่า มีความปลอดภัยหรือไม่ที่ธนาคารต่างๆ จะดำเนินการตามแผนการใช้จ่ายเงินทุน ซึ่งรวมถึงการใช้เงินทุนพิเศษสำหรับการซื้อหุ้นคืน การจ่ายเงินปันผล และการใช้จ่ายอื่นๆ นอกเหนือจากการตั้งสำรองหนี้เสีย โดยการทดสอบดังกล่าวได้รับการออกแบบขึ้นเพื่อหลีกเลี่ยงการใช้เงินจากผู้เสียภาษีมาช่วยเหลือภาคธนาคารเหมือนในช่วงที่เกิดวิกฤตการเงินปี 2550-2552
ในการทดสอบภาวะวิกฤตครั้งนี้ ธนาคารดอยซ์แบงก์ได้ผ่านการทดสอบ และถือเป็นแรงหนุนที่สำคัญเนื่องจากธนาคารมีแผนปรับโครงสร้าง โดยดอยซ์ แบงก์ ไม่ผ่านการทดสอบภาวะวิกฤตในปี 2558 2559 และ 2561 และหากดอยซ์ แบงก์ ไม่ผ่านการทดสอบอีกครั้ง ก็จะทำลายความเชื่อมั่นของลูกค้าและนักลงทุนในขณะที่นายคริสเตียน เซวิง ซีอีโอของดอยซ์แบงก์กำลังพยายามที่จะพลิกฟื้นธุรกิจของธนาคาร และราคาหุ้นร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในเดือนนี้
ขณะเดียวกัน เฟดได้สั่งให้เครดิต สวิส แก้ไขความอ่อนแอในกระบวนการประเมินความพอเพียงของเงินทุนภายในเดือนต.ค.นี้ และจำกัดการใช้จ่ายทุนไว้ที่ระดับของปีที่แล้วไปจนกว่าจะแก้ไขความอ่อนแอเหล่านั้น
นอกจากนี้ เฟดยังระบุถึงจุดอ่อนในสมมติฐานที่ธนาคารต่างๆ ใช้ในการคาดการณ์การขาดทุนทางธุรกิจ ซึ่งเพิ่มความวิตกเกี่ยวกับความเพียงพอของเงินทุนและกระบวนการวางแผนด้านทุน โดยที่เฟดไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติม
ทั้งนี้ เฟดได้อนุมัติแผนการด้านเงินทุนของธนาคาร 16 แห่งซึ่งเข้าร่วมในการทดสอบภาวะวิกฤตในปีนี้ ซึ่งรวมถึงธนาคารขนาดใหญ่ที่สุดของสหรัฐ อาทิ เจพีมอร์แกน เชส แบงก์ ออฟ อเมริกา และ ซิติกรุ๊ป