ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยว่า เฟดยังคงปรับลดการถือครองพันธบัตรสหรัฐ โดยในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 24 ก.ค. มูลค่าการถือครองพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐโดยเฉลี่ยต่อวันลดลง 808 ล้านดอลลาร์ สู่ 2,094,026 ล้านดอลลาร์
เฟดระบุว่า พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐส่วนใหญ่ที่เฟดถือครองนั้นเป็นหลักทรัพย์ระยะยาวที่ออกโดยรัฐบาลสหรัฐ อาทิ ตราสารหนี้และพันธบัตรรัฐบาล ซึ่งมีมูลค่ารวม 1,954,371 ล้านดอลลาร์
เฟดได้ซื้อหลักทรัพย์ที่ออกโดยรัฐบาลและหลักทรัพย์อื่นๆ เช่น หลักทรัพย์ที่ค้ำประกันโดยการจำนอง (MBS) จากตลาด เพื่อเพิ่มปริมาณเงินหมุนเวียน และกระตุ้นให้มีการปล่อยสินเชื่อและการลงทุนหลังเกิดวิกฤตการเงินในปี 2551
ทั้งนี้ มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ ซึ่งเป็นนโยบายการเงินพิเศษ ทำให้เฟดต้องถือครองหลักทรัพย์เป็นจำนวนมาก
ในขณะเดียวกัน ข้อมูลก็แสดงให้เห็นว่า เฟดกำลังปรับลดการถือครอง MBS ลง โดยการถือครอง MBS โดยเฉลี่ยต่อวัน ลดลง 5,509 ล้านดอลลาร์ สู่ 1,524,796 ล้านดอลลาร์สำหรับสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 24 ก.ค.
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ในเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา เฟดระบุว่า มีความตั้งใจที่จะยุติการปรับลดการถือครองหลักทรัพย์โดยรวม ณ สิ้นเดือนก.ย.นี้ โดยกระบวนการ Balance Sheet Normalization ซึ่งเป็นการปรับงบดุลบัญชีสู่ภาวะปกตินั้น ได้เริ่มต้นขึ้นในเดือนต.ค. 2560