นักวิเคราะห์ฟันธง"ทรัมป์"ขู่รีดภาษีจีนครั้งใหม่ ช่วยหนุนเฟดหั่นดอกเบี้ยมากกว่าคาด

ข่าวเศรษฐกิจ Friday August 2, 2019 17:53 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักวิเคราะห์ระบุว่า การที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ขู่เรียกเก็บภาษีเพิ่มขึ้นอีก 10% ต่อสินค้านำเข้าจากจีนมูลค่า 3 แสนล้านดอลลาร์ จะเป็นปัจจัยทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยมากกว่าที่เฟดคาดการณ์ไว้ เพื่อปกป้องเศรษฐกิจสหรัฐจากความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับนโยบายการค้า

ทั้งนี้ ปธน.ทรัมป์ทวีตข้อความวานนี้ ระบุว่า สหรัฐจะเรียกเก็บภาษีเพิ่มขึ้นอีก 10% ต่อสินค้านำเข้าจากจีนมูลค่า 3 แสนล้านดอลลาร์ โดยมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ก.ย.

"เจ้าหน้าที่ของเราเพิ่งกลับมาจากจีน หลังจากที่ได้เจรจาอย่างสร้างสรรค์เพื่อทำข้อตกลงการค้าในอนาคต เราคิดว่าเราสามารถทำข้อตกลงการค้ากับจีนได้เมื่อ 3 เดือนก่อน แต่เป็นที่น่าเสียใจที่ว่า จีนได้ตัดสินใจที่จะทำการเจรจาใหม่ ก่อนที่จะมีการลงนาม และเมื่อไม่นานมานี้ จีนตกลงที่จะซื้อสินค้าเกษตรจำนวนมากจากสหรัฐ แต่ก็ไม่ได้ทำเช่นนั้น นอกจากนี้ ท่านประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้พูดว่า เขาจะยุติการจำหน่ายยา Fentanyl ให้แก่สหรัฐ แต่สิ่งนี้ไม่เคยเกิดขึ้น ทำให้ชาวอเมริกันจำนวนมากยังคงล้มตาย"

"การเจรจาการค้าจะยังคงดำเนินต่อไป ซึ่งในระหว่างการเจรจา สหรัฐจะเรียกเก็บภาษีเพิ่มขึ้นอีก 10% ต่อสินค้านำเข้าจากจีนที่เหลืออีกมูลค่า 3 แสนล้านดอลลาร์ โดยจะเริ่มมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ก.ย. และนี่จะไม่รวมสินค้าวงเงิน 2.5 แสนล้านดอลลาร์ซึ่งถูกเรียกเก็บภาษี 25% ก่อนหน้านี้" ข้อความในทวิตเตอร์ระบุ

ทางด้านนายเบรตต์ ไรอัน นักวิเคราะห์จากดอยซ์แบงก์ ระบุว่า การประกาศของปธน.ทรัมป์ได้เพิ่มโอกาสที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยรวมมากกว่า 0.75% ในปีนี้

ส่วนนายลู เบรียน นักวิเคราะห์จากดีอาร์ดับเบิลยู โฮลดิ้งส์ กล่าวว่า หากปัญหาทางการค้าได้ลุกลามกลายเป็นสงครามการค้าเต็มรูปแบบ เฟดก็คงไม่สามารถรักษาแผนการเดิมที่จะจำกัดการปรับลดอัตราดอกเบี้ย และการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งใหม่ของเฟดจะไม่ได้ถูกมองว่าเป็นเพียงการปรับนโยบายในช่วงกลางวัฏจักร แต่จะมีความจำเป็นในการป้องกันการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ