นายเอริค โรเซนเกรน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาบอสตัน กล่าวว่า เศรษฐกิจสหรัฐสามารถผ่านพ้นภาวะชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก และการทำสงครามการค้ากับจีน จึงไม่มีความจำเป็นที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย
ทั้งนี้ นายโรเซนเกรนเป็นกรรมการเฟด 1 ใน 2 คนที่มีมติให้เฟดคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเมื่อวันพุธ ขณะที่เสียงส่วนใหญ่มีมติให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.25% สู่ระดับ 1.75-2.00%
"การเพิ่มการผ่อนคลายนโยบายการเงินจะเพิ่มความเสี่ยงจากการที่อัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำจะทำให้ภาคครัวเรือนและบริษัทต่างๆเพิ่มความเสี่ยงมากขึ้น ทำให้มีการก่อหนี้มากขึ้น ส่งผลให้ราคาสินทรัพย์เสี่ยงแตะระดับที่ไม่ยั่งยืนในระยะยาว" นายโรเซนเกรนกล่าว
"การปรับลดอัตราดอกเบี้ยขณะที่เศรษฐกิจแข็งแกร่งถือเป็นเรื่องแปลก โดยสหรัฐมีการขยายตัว 2% และอัตราว่างงานต่ำสุดในรอบ 50 ปี" เขากล่าว
นายโรเซนเกรนยังระบุว่า ราคาของสินทรัพย์เสี่ยง เช่น หุ้น เริ่มดูเหมือนเข้าสู่ภาวะฟองสบู่ ดังนั้นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยมีแนวโน้มที่จะทำให้เกิดช่วงขาลงที่รุนแรงขึ้น