นางลอเรตตา เมสเตอร์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาคลีฟแลนด์เปิดเผยว่า เศรษฐกิจสหรัฐไม่มีแนวโน้มที่จะชะลอตัวลงอย่างรุนแรง แม้มีความเสี่ยงในปัจจุบันจากการค้าและเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวก็ตาม และระบุว่า หากแนวโน้มเศรษฐกิจไม่ได้เปลี่ยนแปลงอย่างมาก เฟดก็ไม่ควรปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก
นางเมสเตอร์กล่าวว่า เธอคัดค้านการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดในเดือนก.ค.และก.ย.ที่ผ่านมา แต่ในขณะนี้เธอสนับสนุนให้เฟดคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับที่ลดลงดังกล่าวเป็นอีกระยะหนึ่งเพื่อกระตุ้นให้เงินเฟ้อปรับตัวขึ้น
นางเมสเตอร์ระบุว่า เธอกำลังดูว่ามีหลักฐานหรือไม่ว่า การชะลอตัวในภาคธุรกิจกำลังขยายตัวมากขึ้น และส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคและตลาดแรงงาน
เฟดมีความกังวลเพิ่มขึ้นว่า การลงทุนทางธุรกิจที่ลดลงซึ่งถือว่าเป็นผลกระทบจากสงครามการค้าของสหรัฐกับจีนนั้น จะทำให้การจ้างงานลดลง และกระทบการบริโภคของภาคครัวเรือนในที่สุด
นางเมสเตอร์ระบุในการสัมภาษณ์ว่า สถานการณ์ในขณะนี้แตกต่างจากผลกระทบทางเศรษฐกิจที่ผ่านมา โดยมีรากฐานมาจากความเชื่อมั่นทางธุรกิจที่อ่อนแอ มากกว่าจะเกิดจากปัญหาสินเชื่อตึงตัว, ภาวะฟองสบู่สินทรัพย์แตก หรือ ภาวะเงินเฟ้อพุ่งสูงขึ้น ซึ่งทำให้เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยในอดีต
"เศรษฐกิจสามารถผ่านพ้นสถานการณ์อื่นๆ ที่มีลักษณะเช่นนี้" เธอกล่าวเปรียบเทียบความอ่อนแอของโลกในปัจจุบันกับภาวะเศรษฐกิจอ่อนแอที่เกิดขึ้นในปี 2557 โดยไม่เข้าสู่ภาวะถดถอย
นางเมสเตอร์กล่าวว่า เธอจะรอต่อไปจนกว่าจะเห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก ก่อนที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก