ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ออกแถลงการณ์ภายหลังการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ซึ่งเสร็จสิ้นลงเมื่อวานนี้ (30 ต.ค.) โดยระบุว่า ข้อมูลที่ได้รับนับตั้งแต่ที่คณะกรรมการ FOMC ประชุมกันในเดือนก.ย. บ่งชี้ว่า ตลาดแรงงานยังคงมีความแข็งแกร่ง และกิจกรรมทางเศรษฐกิจปรับตัวขึ้นในระดับปานกลาง ทั้งนี้ การจ้างงานโดยเฉลี่ยมีความแข็งแกร่งในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา และอัตราว่างงานยังคงอยู่ในระดับต่ำ ขณะเดียวกัน แม้ว่าการขยายตัวของการใช้จ่ายภาคครัวเรือนปรับตัวขึ้นในอัตราที่แข็งแกร่ง แต่การลงทุนในสินทรัพย์ถาวรของภาคธุรกิจและการส่งออกยังคงอ่อนแอ
ส่วนตัวเลขเงินเฟ้อรายปีนั้น อัตราเงินเฟ้อทั่วไป และอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานที่ไม่นับรวมราคาในหมวดอาหารและพลังงาน เคลื่อนไหวที่ระดับต่ำกว่า 2% สำหรับมาตรการแบบอิงตลาดที่ใช้สำหรับชดเชยปัจจัยเงินเฟ้อนั้น ยังคงอยู่ในระดับต่ำ และข้อมูลที่ได้จากการสำรวจการคาดการณ์เงินเฟ้อระยะยาวบ่งชี้ว่า มีการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อย
คณะกรรมการ FOMC มุ่งมั่นที่จะสนับสนุนการจ้างงานให้เติบโตอย่างเต็มที่และหนุนราคาให้มีเสถียรภาพ ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาถึงแนวโน้มเศรษฐกิจทั่วโลก รวมทั้งแรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับต่ำ คณะกรรมการจึงได้ตัดสินใจปรับอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นลง 0.25% สู่ระดับ 1.50-1.75% โดยการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้จะช่วยสนับสนุนมุมมองของคณะกรรมการที่ว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ภาวะตลาดแรงงานมีความแข็งแกร่ง และอัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มที่จะเคลื่อนตัวเข้าใกล้ระดับ 2% ซึ่งเป็นระดับเป้าหมายของคณะกรรมการ อย่างไรก็ดี คณะกรรมการมองว่าแนวโน้มดังกล่าวยังคงมีความไม่แน่นอน ทั้งนี้ ในการพิจารณากรอบเป้าหมายของอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นในอนาคต คณะกรรมการ FOMC จะจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่จะได้รับในวันข้างหน้า
ในการตัดสินใจเกี่ยวกับช่วงเวลาและขนาดในการปรับกรอบเป้าหมายอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นในอนาคตนั้น ทางคณะกรรมการจะประเมินภาวะเศรษฐกิจทั้งในแง่ของความเป็นจริงและการคาดการณ์ โดยคำนึงถึงเป้าหมายของการจ้างงานสูงสุดและเงินเฟ้อที่ระดับ 2% การประเมินนี้จะพิจารณาข้อมูลในวงกว้าง ซึ่งรวมถึงมาตรวัดภาวะตลาดแรงงาน ปัจจัยชี้วัดแรงกดดันด้านเงินเฟ้อและการคาดการณ์เงินเฟ้อ และการพิจารณาถึงความคืบหน้าทางการเงินและสถานการณ์ในต่างประเทศ
กรรมการเฟดผู้ที่ออกเสียงสนับสนุนการดำเนินนโยบายการเงินของ FOMC ในการประชุมครั้งนี้ ได้แก่ เจอโรม เอช พาวเวล ประธานเฟด, จอห์น ซี วิลเลียมส์ รองประธานเฟด, มิเชล ดับเบิลยู โบวแมน, ลาเอล เบรนาร์ด, เจมส์ บูลลาร์ด, ริชาร์ด เอช คลาริดา, ชาร์ลส์ แอล อีแวนส์ และแรนดัล เค ควอร์เลส ส่วนกรรมการเฟดที่คัดค้านการดำเนินนโยบายการเงินในการประชุมครั้งนี้ ได้แก่ เอสเธอร์ แอล จอร์จ และเอริค เอส โรเซนเกรน ซึ่งกรรมการทั้ง 2 คนได้สนับสนุนให้เฟดคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 1.75-2.00%