นายหวัง อี้ ผู้ว่าการธนาคารกลางจีน ได้แสดงมุมมองเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจทั่วโลกอย่างระมัดระวัง พร้อมกับส่งสัญญาณว่า ธนาคารกลางจีนยังไม่มีแผนที่จะใช้นโยบายผ่อนคลายการเงินครั้งใหญ่
นายอี้ได้แสดงความเห็นผ่านทางบทความที่เผยแพร่บนบัญชี WeChat ของนิตยสาร Qiushi ของพรรคคอมมิวนิสต์จีนเมื่อวานนี้ว่า ธนาคารกลางจีนควรเตรียมนโยบายเพื่อรับมือกับสถานการณ์ในระยะกลางจนถึงระยะยาว และควรยึดมั่นในเป้าหมายเดิมที่วางไว้
สำหรับแนวโน้มเศรษฐกิจโลกนั้น นายอี้กล่าวว่า ภาวะชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกอาจจะเกิดขึ้นเป็นเวลานาน ดังนั้น ธนาคารกลางจีนจึงต้องจับตามากเป็นพิเศษและดำเนินนโยบายอย่างมีเป้าหมาย ขณะเดียวกันธนาคารกลางจีนก็จะไม่ใช้วิธีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงสู่ระดับศูนย์เพื่อหวังผลด้านการแข่งขัน หรือใช้นโยบายผ่อนคลายการเงินเชิงปริมาณ
นอกจากนี้ นายอี้กล่าวว่า การพัฒนาทางเศรษฐกิจควรถูกตัดสินง่าย ๆ ด้วยการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) พร้อมกับกล่าวว่า หน้าที่หลักของนโยบายการเงินคือการรักษาราคาให้มีเสถียรภาพ และปกป้องเงินของประชาชนจากภาวะเงินเฟ้อ ขณะเดียวกันนายอี้ยังได้เน้นย้ำถึงคำมั่นสัญญาณที่ว่า ธนาคารกลางจะยังคงรักษาเงินหยวนให้มีเสถียรภาพ และจะไม่ลดค่าเงินหยวนเพื่อหวังผลด้านการแข่งขัน
ถ้อยแถลงของผู้ว่าการธนาคารกลางจีนมีขึ้นเพียงวันเดียว หลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานเมื่อวันเสาร์ว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนพ.ย. อยู่ที่ระดับ 50.2 เพิ่มขึ้นจากระดับ 49.3 ในเดือนต.ค.
ทั้งนี้ ดัชนีที่เคลื่อนไหวสูงกว่าระดับ 50 บ่งชี้ว่าภาคการผลิตของจีนอยู่ในภาวะขยายตัว และหากดัชนีเคลื่อนไหวต่ำกว่าระดับ 50 บ่งชี้ว่าภาคการผลิตมีการหดตัว
ส่วนดัชนี PMI ภาคบริการเดือนพ.ย.อยู่ที่ระดับ 54.4 เพิ่มขึ้นจากระดับ 52.8 ในเดือนต.ค. โดยดัชนี PMI ที่เคลื่อนไหวเหนือระดับ 50 บ่งชี้ว่า ภาคบริการของจีนยังคงมีการขยายตัว