กรรมการรายหนึ่งของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ได้ปฏิเสธที่จะปฏิบัติตามข้อเสนอของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ที่ต้องการให้ BOJ ปรับกรอบเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อให้ยืดหยุ่นมากขึ้นโดยกำหนดเป็นช่วงระดับ แทนการกำหนดไว้ตายตัวที่ระดับ 2%
ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อที่ระดับต่ำอย่างต่อเนื่องทำให้ BOJ ยังคงต้องดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนานใหญ่แม้สถาบันการเงินเผชิญกับภาวะการเงินที่ตึงตัวนั้น IMF ได้เปิดเผยข้อเสนอด้านนโยบายในเดือนพ.ย.ที่ผ่านมาว่า BOJ อาจกำหนดเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อให้ยืดหยุ่นขึ้นโดยการกำหนดเป้าหมายเงินเฟ้อเป็นช่วงระดับ
ข้อเสนอดังกล่าวตรงข้ามกับที่นายฮารุฮิโกะ คุโรดะ ผู้ว่าการ BOJ ยืนยันที่จะยังคงผ่อนคลายนโยบายการเงินอย่างมากเพื่อให้บรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อที่ระดับ 2% โดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
หนึ่งในคณะกรรมการ 9 คนของ BOJ เปิดเผยในการประชุมนโยบายเดือนธ.ค.ว่า BOJ ควรพิจารณาอย่างสม่ำเสมอว่า กรอบนโยบายใดที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด แต่การกำหนดช่วงเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อตามที่ IMF เสนอนั้น อาจลดทอนความพยายามของ BOJ ในการบรรลุเป้าหมายด้านราคา
ขณะที่กรรมการ BOJ บางคนได้ย้ำถึงความวิตกเกี่ยวกับผลเสียที่เพิ่มขึ้นจากการผ่อนคลายนโยบายเป็นเวลานานนั้น กรรมการคนอื่นๆ มองว่า จำเป็นต้องขยายมาตรการกระตุ้นต่อไปเพื่อปกป้องเศรษฐกิจ
กรรมการรายหนึ่งกล่าวว่า ขณะที่ความเสี่ยงของเศรษฐกิจมีแนวโน้มลดลง BOJ ควรจะตรวจสอบว่า จำเป็นต้องผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติมหรือไม่ และเตรียมพร้อมสำหรับความเป็นไปได้ที่เศรษฐกิจจะชะลอตัวลงอีก
กรรมการอีกรายระบุว่า BOJ อาจจำเป็นต้องดำเนินมาตรการผ่อนคลายเพิ่มเติม หากการปรับขึ้นภาษีขายที่เริ่มขึ้นในเดือนต.ค.ที่ผ่านมา ทำให้การบริโภคชะลอตัว