ธนาคารกลางจีน (PBOC) เปิดเผยว่า การระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) จะกดดันเสถียรภาพราคา เพราะการผลิตสินค้ามีความล่าช้า แต่ก็จะไม่ทำให้เกิดแรงกดดันด้านเงินเฟ้อขนาดใหญ่
นายฟาน ยี่เฟย รองผู้ว่าการธนาคารกลางจีนกล่าวในการแถลงข่าวที่กรุงปักกิ่งในวันนี้ว่า จุดยืนของ PBOC ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง และ PBOC จะยังคงดำเนินนโยบายการเงินที่รอบคอบ
แถลงการณ์ของ PBOC ระบุว่า ธนาคารกลางมีความเชื่อมั่นว่าจะสามารถจัดการกับผลกระทบของการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และจะสามารถรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจได้ พร้อมกับได้เรียกร้องให้บรรดานักลงทุนในตลาดการเงินใช้วิจารณญาณในการลงทุน
ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของจีนพุ่งขึ้นสูงสุดในเดือนม.ค.ในรอบกว่า 8 ปี และมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นต่อไปในอีกหลายเดือนข้างหน้า เนื่องจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้ต้องมีการปิดเส้นทางการขนส่งทั่วประเทศ ซึ่งส่งผลกระทบต่อภาคการผลิต
การชัตดาวน์ภาคเศรษฐกิจส่วนใหญ่ของจีนจะส่งผลกระทบต่อทั้งอุปสงค์และอุปทาน ขณะที่บริษัทจำนวนมากยังคงปิดทำการ และประชาชนยังคงไม่ได้กลับไปทำงาน
สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานในเดือนนี้ว่า ดัชนี CPI ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่สำคัญ ปรับตัวขึ้น 5.4% ในเดือนม.ค. เมื่อเทียบเป็นรายปี โดยเพิ่มขึ้นจากเดือนธ.ค. 2562 ซึ่งมีการขยายตัวเพียง 4.5%
นายฟานกล่าวว่า สำนักงานควบคุมกฎระเบียบด้านการธนาคารของจีนได้ปรับกฎเกณฑ์เกี่ยวกับเงินกู้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ที่เป็นผลจากการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยประกาศเมื่อวานนี้ว่า ธนาคารพาณิชย์สามารบันทึก NPL ดังกล่าวนอกบัญชีได้ในระยะเวลาที่ได้รับการผ่อนผัน