ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) มีมติให้ใช้มาตรการผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติมในการประชุมฉุกเฉินวันนี้ โดยปรับเพิ่มเป้าหมายในการซื้อพันธบัตรเพิ่มเติมอีก 2 ล้านล้านเยน และใช้กลไกในการปล่อยเงินกู้ใหม่สำหรับบริษัทเอกชน
ขณะเดียวกัน ธนาคารกลางญี่ปุ่นได้คงเป้าหมายของผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีที่ระดับประมาณ 0% นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้มีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ -0.1%
BOJ ระบุด้วยว่า จะติดตามสถานการณ์ของการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) อย่างใกล้ชิด
ทั้งนี้ มาตรการผ่อนคลายการเงินเพิ่มเติมนี้ถูกนำมาใช้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนก.ค. 2559 ซึ่งเป็นช่วงที่แบงก์ชาติญี่ปุ่นได้เพิ่มวงเงินการซื้อกองทุน ETF เป็น 6 ล้านล้านเยน (5.6 หมื่นล้านดอลลาร์) ต่อปี จากระดับ 3.3 ล้านล้านเยน
แบงก์ชาติญี่ปุ่นได้จัดประชุมนโยบายฉุกเฉินขึ้นในวันนี้ หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง เพื่อสร้างเสถียรภาพในตลาดการเงินที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19
อย่างไรก็ดี แบงก์ชาติญี่ปุ่นเลี่ยงที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นให้อยู่ในแดนลบเพิ่มเติม ในขณะที่อัตราดอกเบี้ยในปัจจุบันอยู่ที่ระดับ -0.1% แล้ว เนื่องจากการดำเนินนโยบายดังกล่าวส่งผลกระทบต่อกำไรของธนาคารพาณิชย์
ธนาคารกลาง 6 ประเทศ ซึ่งรวมถึงแบงก์ชาติญี่ปุ่น ธนาคารกลางสหรัฐ และธนาคารกลางยุโรป ระบุว่า จะดำเนินการแบบสอดประสานกัน เพื่อยกระดับการจัดหาสภาพคล่องในรูปของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ