ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ประกาศโครงการใหม่ในการซื้อหลักทรัพย์ของภาคเอกชนและภาครัฐวงเงินรวม 7.50 แสนล้านยูโร (8.19 แสนล้านดอลลาร์) เพื่อรับมือกับความเสี่ยงต่างๆ ที่เกิดจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
ทั้งนี้ ECB ประกาศโครงการซื้อสินทรัพย์ทางการเงินดังกล่าวเพื่อพยายามคลายความวิตกในตลาด และลดผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่มีต่อเศรษฐกิจโลก
สำหรับสินทรัพย์ที่ ECB จะซื้อนั้นได้แก่ พันธบัตรรัฐบาล, หุ้นกู้ภาคเอกชน รวมถึงตราสารเพื่อการพาณิชย์ โดยจะซื้อสินทรัพย์เหล่านี้ไปจนถึงสิ้นปีนี้
ECB ระบุว่า โครงการซื้อสินทรัพย์ดังกล่าวซึ่งมีชื่อว่าโครงการซื้อสินทรัพย์ฉุกเฉินเพื่อรับมือกับโรคระบาด (Pandemic Emergency Purchase Programme) มีเป้าหมายในการทำให้อัตราดอกเบี้ยลดลง เพื่อสนับสนุนแนวโน้มเศรษฐกิจยุโรป และรับประกันว่าธนาคารจะสามารถปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำให้กับภาคธุรกิจและผู้บริโภค
ECB ระบุว่า จะดำเนินบทบาทในการสนับสนุนพลเมืองทุกคนในยูโรโซนให้ผ่านพ้นช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุดครั้งนี้
นอกจากนี้ ECB จะรับประกันว่า ทุกภาคส่วนของเศรษฐกิจจะได้รับประโยชน์จากการสนับสนุนด้านการเงินเพื่อให้สามารถรับมือกับผลกระทบ โดยจะให้ความช่วยเหลืออย่างเท่าเทียมกันแก่ครอบครัว, บริษัท, ธนาคาร และรัฐบาลต่างๆ
สภาบริหารของ ECB ระบุในแถลงการณ์ว่า ECB อาจเพิ่มขนาดและขยายเวลาการซื้อสินทรัพย์ขึ้นอีก หากพิจารณาแล้วเห็นว่าจำเป็น