นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยในวันศุกร์ (29 พ.ค.) ว่า แนวโน้มผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่พุ่งขึ้นในสหรัฐ อาจจะสกัดกั้นการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากโรคระบาดดังกล่าว แม้เขาได้ระบุย้ำว่า เฟดยืนยันที่จะยังคงเดินหน้าต่อสู้กับวิกฤตดังกล่าวต่อไปก็ตาม
เฟดได้ดำเนินมาตรการทุกทางที่จะสร้างเสถียรภาพให้กับตลาดการเงินนับตั้งแต่เดือนมี.ค.ที่ผ่านมา โดยปรับลดอัตราดอกเบี้ย และจัดหาสินเชื่อ เพื่อช่วยเหลือบริษัทและรัฐบาลท้องถิ่นที่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจจากมาตรการล็อกดาวน์เพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
Worldometer ซึ่งเป็นเว็บไซต์รายงานข้อมูลล่าสุดที่มีการรวบรวมจากหน่วยงานด้านสาธารณสุขทั่วโลก รายงานในช่วงเช้านี้ว่า สหรัฐมียอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 อยู่ที่ 1,793,530 ราย และมีผู้เสียชีวิต 104,542 ราย
เจ้าหน้าหน้าที่ด้านสาธารณสุขจำนวนมากวิตกว่า ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 อาจจะพุ่งขึ้นในช่วงหลายสัปดาห์และหลายเดือนข้างหน้า ขณะที่รัฐต่างๆ กลับมาเปิดเศรษฐกิจอีกครั้ง
นายพาวเวลกล่าวในเว็บคาสต์ที่จัดโดยมหาวิทยาลัยพรินซ์ตันว่า "ผมคิดว่า การระบาดรอบสองของโรคโควิด-19 จะทำลายความเชื่อมั่นของประชาชน และอาจทำให้การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจเป็นไปอย่างล่าช้า และอ่อนแอ"
"เราจะยังคงดำเนินมาตรการรับมือต่อไปอย่างแน่นอน เราจะไม่มีข้อจำกัดใดๆ แต่ที่ผมวิตกมากกว่าก็คือ การระบาดรอบสองของโรคโควิด-19 จะทำลายความเชื่อมั่น"
ความเห็นของนายพาวเวลได้ย้ำเตือนว่า เฟดกำลังเผชิญกับวิกฤตด้านสุขภาพของประชาชน ซึ่งเป็นปัจจัยที่เฟดไม่สามารถควบคุมได้
อย่างไรก็ตาม นายพาวเวลได้ระบุย้ำหลายครั้งแล้วว่า เฟดจะดำเนินนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายต่อไปจนกว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะฟื้นตัว และอัตราการจ้างงานกลับสู่ระดับที่แข็งแกร่ง
ทั้งนี้ เฟดจะประชุมกำหนดนโยบายการเงินครั้งต่อไปในวันที่ 9-10 มิ.ย.นี้