นายฮารุฮิโกะ คุโรดะ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ได้จัดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนภายหลังการประชุมนโยบายการเงินของ BOJ ในวันนี้ โดยกล่าวว่า BOJ จะไม่ลังเลในการใช้นโนบายผ่อนคลายการเงินเพิ่มเติมหากจำเป็น ซึ่งหมายความว่า BOJ มีความพร้อมที่จะขยายโครงการเงินกู้ หากพิจารณาแล้วเห็นว่าจำเป็น
นายคุโรดะได้กล่าวถึงแนวทางในการดำเนินนโยบายของ BOJ โดยกล่าวว่า "เมื่อพิจารณาถึงความไม่แน่นอนที่ว่าการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและตลาดของเรามากน้อยเพียงใดนั้น เราอาจจำเป็นต้องพิจารณาถึงมาตรการใหม่ๆ และเราจะตอบสนองสถานการณ์เหล่านี้ด้วยความยืดหยุ่น"
"เราจะไม่ลังเลในการใช้มาตรการผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติม ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวจะพิจารณา 3 ทางเลือกที่สำคัญ ซึ่งได้แก่ การขยายโครงการพิเศษเพื่อต่อสู้กับโรคระบาด การปรับลดเป้าหมายอัตราผลตอบแทนพันธบัตร และการขยายวงเงินซื้อกองทุน ETF" นายคุโรดะกล่าว
ส่วนในเรื่องเป้าหมายด้านราคานั้น นายคุโรดะกล่าวว่า "เศรษฐกิจญี่ปุ่นได้สูญเสียแรงกระตุ้นในการบรรลุเป้าหมายด้านราคาในขณะนี้ แม้ว่าเศรษฐกิจมีแนวโน้มที่จะฟื้นตัว แต่ราคาอาจจะยังคงเคลื่อนไหวในแดนลบต่อไปอีกระยะหนึ่ง อย่างไรก็ดี คาดว่าเมื่อเศรษฐกิจมีการขยายตัวรวดเร็วขึ้น อัตราเงินเฟ้อก็จะดีดตัวขึ้นด้วย โดยเรายังคงยึดมั่นในเป้าหมายเงินเฟ้อที่ระดับ 2%"
สำหรับแนวโน้มเศรษฐกิจนั้น นายคุโรดะกล่าวว่า "กรรมการ BOJ มีความเห็นตรงกันว่า ในระยะยาวนี้ เศรษฐกิจญี่ปุ่นอาจจะฟื้นตัวขึ้นในระดับหนึ่ง เนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ลดน้อยลง มุมมองของเราเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปมากนักนับตั้งแต่เดือนเม.ย."
นอกจากนี้ นายคุโรดะยังกล่าวถึงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ว่า "ปัญหาใหญ่ที่สุดของโลกในเวลานี้ก็คือยอดติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในประเทศกลุ่มตลาดเกิดใหม่ หากการแพร่ระบาดรอบที่สองเกิดขึ้นในประเทศที่พัฒนาแล้ว ก็อาจนำไปสู่การล็อกดาวน์และการใช้มาตรการต่างๆ อีกครั้ง ซึ่งจะส่งผลกระทบในด้านลบต่อเศรษฐกิจ"
ในการประชุมนโยบายการเงินวันนี้ BOJ มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ -0.1% พร้อมกับคงเป้าหมายอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี ไว้ที่ระดับ 0% นอกจากนี้ BOJ ยังประกาศขยายวงเงินในโครงการเงินกู้สำหรับบริษัทต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 จาก 75 ล้านล้านเยน เป็น 110 ล้านล้านเยน