คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ออกแถลงการณ์ในวันนี้ ระบุว่า FOMC มีมติเป็นเอกฉันท์ในการอนุมัติการปรับยุทธศาสตร์นโยบายการเงินและเป้าหมายในระยะยาว
ทั้งนี้ แถลงการณ์ระบุว่า เฟดได้ใช้นโยบายกำหนด"เป้าหมายเงินเฟ้อเฉลี่ย" และให้การยอมรับต่อตลาดแรงงานที่แข็งแกร่ง
"หลังจากที่อัตราเงินเฟ้อได้ปรับตัวต่ำกว่า 2% เป็นเวลานาน การใช้นโยบายการเงินที่เหมาะสมจะมีแนวโน้มช่วยให้อัตราเงินเฟ้อดีดตัวขึ้นเหนือระดับ 2%" แถลงการณ์ระบุ
เฟดระบุว่าการปรับเปลี่ยนนโยบายดังกล่าวเป็นผลมาจากการทบทวนกรอบนโยบายการเงินของเฟดที่ได้เริ่มดำเนินการในช่วงต้นปี 2562 ในความพยายามที่จะรับมือกับความท้าทายใหม่ๆที่เกิดจากภาวะอัตราดอกเบี้ยต่ำเป็นเวลายาวนาน
"เศรษฐกิจมักมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ดังนั้นยุทธศาสตร์ในการบรรลุเป้าหมายของ FOMC จึงต้องมีการปรับเพื่อรับมือกับความท้าทายใหม่ๆที่ปรากฎขึ้น โดยแถลงการณ์ของเราได้สะท้อนถึงการยอมรับในประโยชน์ของตลาดแรงงานที่แข็งแกร่ง โดยเฉพาะสำหรับครัวเรือนที่มีรายได้ต่ำ และรายได้ปานกลาง โดยเราสามารถรักษาตลาดแรงงานให้มีความแข็งแกร่งโดยไม่ทำให้เกิดการดีดตัวของภาวะเงินเฟ้อที่ไม่พึงประสงค์" นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด กล่าว
ทั้งนี้ FOMC ออกแถลงการณ์ดังกล่าวในวันนี้ ซึ่งเป็นวันแรกของการประชุมประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็กสัน โฮล
นายพาวเวลได้ขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ในวันนี้ โดยเขาได้ประกาศการปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินครั้งสำคัญ ซึ่งเฟดจะเปลี่ยนแปลงแนวทางในการกำหนดเป้าหมายเงินเฟ้อ โดยจะเปิดทางให้เงินเฟ้อดีดตัวขึ้นมากกว่าเดิมเพื่อสนับสนุนตลาดแรงงาน และเศรษฐกิจสหรัฐ
การประกาศปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินในวันนี้ ส่งผลให้เฟดมีแนวโน้มน้อยลงที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเมื่ออัตราว่างงานลดลง ตราบใดที่อัตราเงินเฟ้อไม่ได้ดีดตัวขึ้น
ก่อนหน้านี้ เฟดมีความเชื่อว่าอัตราว่างงานต่ำจะส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อพุ่งขึ้นจนถึงขีดอันตราย ทำให้เฟดดำเนินการล่วงหน้าด้วยการรีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อที่อาจก่อตัวขึ้น
นายพาวเวลกล่าวว่า เฟดจะใช้เครื่องมือใหม่ที่เรียกว่า "เป้าหมายเงินเฟ้อเฉลี่ย" ซึ่งจะทำให้อัตราเงินเฟ้อมีความยืดหยุ่น และสามารถดีดตัวขึ้นเหนือ 2% แทนที่จะกำหนดเป้าหมายตายตัวที่ 2%
นักวิเคราะห์คาดว่า เฟดจะระบุรายละเอียดของการใช้เครื่องมือ "เป้าหมายเงินเฟ้อเฉลี่ย" ในการประชุมนโยบายการเงินของเฟดในวันที่ 15-16 ก.ย. โดยเฟดจะกำหนดช่วงการปรับตัวขึ้นลง หรือช่วง +/- ของอัตราเงินเฟ้อจากระดับ 2%
ก่อนหน้านี้ เฟดกำหนดเป้าหมายเงินเฟ้อที่ระดับ 2% แต่ในช่วง 1 ทศวรรษที่ผ่านมา นับตั้งแต่เกิดวิกฤตการเงิน เฟดพบว่าเงินเฟ้อในสหรัฐมักอยู่ต่ำกว่าเป้าหมายดังกล่าว ส่งผลให้เฟดมีความกังวลเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อต่ำ ทำให้เฟดมีแนวคิดที่จะปล่อยให้เงินเฟ้อดีดตัวขึ้น เพื่อหลีกเลี่ยงกับดักการขยายตัวที่อ่อนแอในระยะยาว และอำนาจการกำหนดราคาในระดับต่ำ
"หลายคนอาจไม่เห็นด้วยที่เฟดจะผลักดันให้อัตราเงินเฟ้อดีดตัวขึ้น อย่างไรก็ดี อัตราเงินเฟ้อที่ต่ำเกินไปจะสร้างความเสี่ยงที่รุนแรงต่อเศรษฐกิจ" นายพาวเวลกล่าว
ประธานเฟดยังได้ระบุว่าสถานการณ์ในปัจจุบันได้แตกต่างจากเมื่อ 40 ปีก่อน ซึ่งเฟดในขณะนั้นต้องทำการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหลายครั้งเพื่อพยายามสกัดเงินเฟ้อ แต่เมื่อเวลาผ่านไป ปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจก็ได้เปลี่ยนแปลงไป ทำให้เฟดต้องหันมาให้ความสนใจต่ออัตราเงินเฟ้อที่ต่ำเกินไป ซึ่งอาจสร้างความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจ