ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ได้เริ่มเปิดการประชุมระยะเวลา 2 วันในวันนี้ เพื่อประเมินสถานการณ์เศรษฐกิจภายในประเทศ หลังจากจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 พุ่งขึ้นและทำให้รัฐบาลต้องประกาศภาวะฉุกเฉินแล้วในกรุงโตเกียว และอีก 3 จังหวัด
นายโยชิฮิเดะ ซูงะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นประกาศภาวะฉุกเฉินในกรุงโตเกียว, เกียวโต, โอซาก้า และเฮียวโงะ เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในช่วงวันหยุดเทศกาลโกลเด้นวีคระหว่างวันที่ 25 เม.ย.-11 พ.ค.นี้ โดยภายใต้ภาวะฉุกเฉินนั้น จะมีการบังคับใช้มาตรการจำกัดที่เข้มงวดมากขึ้น เช่น ร้านอาหารและบาร์จะไม่สามารถจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์รวมถึงให้ศูนย์การค้าขนาดใหญ่ปิดให้บริการชั่วคราว
นักวิเคราะห์ในโพลสำนักข่าวเกียวโดคาดการณ์ว่า BOJ จะคงนโยบายการเงินในการประชุมครั้งนี้ หลังจากที่ได้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ -0.1% แต่ได้ประกาศปรับโครงการซื้อกองทุน ETF ให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น โดยยกเลิกคำมั่นสัญญาที่ว่า จะเข้าซื้อกองทุน ETF ในวงเงิน 6 ล้านล้านเยนต่อปี
ทางด้านนายฮารุฮิโกะ คุโรดะ ผู้ว่าการ BOJ ได้กล่าวภายหลังการประชุมในเดือนมี.ค.ว่า BOJ จะเดินหน้าใช้นโยบายผ่อนคลายการเงินต่อไปจนกว่าจะบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อที่ระดับ 2% และจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยโดยไม่ลังเล หากพิจารณาแล้วเห็นว่าจำเป็น นอกจากนี้ BOJ จะยังคงซื้อกองทุน ETF แม้ว่าได้ปรับลดเป้าหมายการซื้อรายปีลงก็ตาม