แบงก์ชาติอินโดนีเซียมีมติคงดอกเบี้ย หวังพยุงเศรษฐกิจฟื้นตัวจากโควิด

ธนาคารกลางอินโดนีเซียมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ในการประชุมวันนี้ โดยมีเป้าหมายที่จะพยุงเศรษฐกิจของประเทศให้ฟื้นตัวจากผลกระทบของไวรัสโควิด-19 ที่ยังคงแพร่ระบาดอย่างหนักในขณะนี้

ทั้งนี้ ธนาคารกลางอินโดนีเซียคงอัตราดอกเบี้ยซื้อคืนพันธบัตรโดยมีสัญญาขายคืน (reverse repurchase rate) ระยะเวลา 7 วัน ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 3.5% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ โดยการดำเนินการดังกล่าวสอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้

นับตั้งแต่ปี 2563 ธนาคารกลางอินโดนีเซียได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงทั้งสิ้น 1.50% อีกทั้งยังได้อัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบการเงินกว่า 5.7 หมื่นล้านดอลลาร์ และผ่อนคลายกฎระเบียบด้านการกู้ยืม เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศให้ฟื้นตัวจากผลกระทบของโรคโควิด-19

ธนาคารกลางอินโดนีเซียได้ปรับลดคาดการณ์ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ในปี 2564 จากเดิมที่คาดว่าจะขยายตัว 4.6% เหลือเป็นขยายตัว 3.8% โดยประเมินจากผลกระทบของมาตรการควบคุมโควิด-19

กระทรวงสาธารณสุขอินโดนีเซียเปิดเผยวานนี้ว่า พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่จำนวน 33,772 ราย ส่งผลให้จำนวนผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 2,983,830 ราย ซึ่งเป็นจำนวนสูงที่สุดในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน)

ส่วนผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 รายใหม่มีจำนวน 1,383 ราย ซึ่งเป็นจำนวนสูงที่สุดนับตั้งแต่มีการแพร่ระบาดตั้งแต่ปีที่แล้ว ส่งผลให้ยอดผู้เสียชีวิตโดยรวมอยู่ที่ 77,583 ราย ซึ่งเป็นจำนวนสูงที่สุดในอาเซียนเช่นกัน