นายแอนดรูว์ เบลีย์ ผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) เปิดเผยว่า BoE จำเป็นต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หากพบว่าตัวเลขคาดการณ์เงินเฟ้อผลักดันให้ค่าจ้างพุ่งสูงขึ้น โดยการแสดงความเห็นล่าสุดนี้ถือเป็นการตอกย้ำมุมมองของเขาเกี่ยวกับทิศทางนโยบายการเงิน ซึ่งส่งผลให้ตลาดการเงินเผชิญกับภาวะปั่นป่วนในสัปดาห์ที่ผ่านมา
นายเบลีย์กล่าวในช่วงถาม-ตอบของการประชุมซึ่งจัดขึ้นโดย BoE เมื่อวานนี้ (8 พ.ย.) ว่า "สิ่งที่เรากังวลก็คือ เมื่ออัตราเงินเฟ้อพุ่งขึ้นและเราต้องการจะควบคุมเงินเฟ้อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ นอกจากนี้ ยังมีความเสี่ยงที่ภาวะคอขวดจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งความต้องการแรงงาน ซึ่งปัจจัยเหล่านี้จะกระตุ้นให้การคาดการณ์เงินเฟ้อปรับตัวสูงขึ้น"
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เมื่อวันที่ 4 พ.ย.ที่ผ่านมา ที่ประชุม BoE มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0.1% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่า BoE จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้
กระแสคาดการณ์ดังกล่าวมีขึ้น หลังจากที่นายเบลีย์ส่งสัญญาณเมื่อวันที่ 18 ต.ค.ที่ผ่านมาว่า BoE มีแนวโน้มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในปีที่แล้ว เพื่อรับมือกับเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้น
BoE คาดการณ์ว่า เงินเฟ้อในอังกฤษจะพุ่งขึ้นเหนือระดับ 4% ภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายของ BoE ถึง 2 เท่า ขณะที่อังกฤษทำการเปิดเศรษฐกิจ ซึ่งทำให้เกิดภาวะขาดแคลนอุปทาน และการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมัน หลังจากที่รัฐบาลใช้มาตรการล็อกดาวน์ก่อนหน้านี้เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19