ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานการประชุมครั้งล่าสุดเมื่อคืนนี้ (24 พ.ย.) โดยระบุว่า กรรมการเฟดมีความเห็นตรงกันว่าคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด (FOMC) ควรเตรียมความพร้อมในการเร่งปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) และการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หากเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับสูงเป็นเวลานาน
"กรรมการหลายคนของเฟดตระหนักว่า คณะกรรมการ FOMC ควรจะเตรียมความพร้อมในการปรับจังหวะเวลาในการลดวงเงิน QE และปรับเพิ่มกรอบเป้าหมายของอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น (Federal Funds Rate) ให้เร็วขึ้นจากการคาดการณ์ในปัจจุบัน หากอัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับสูงกว่าเป้าหมายของคณะกรรมการ FOMC" เฟดระบุในรายงานการประชุมประจำวันที่ 2-3 พ.ย.
ขณะเดียวกัน กรรมการเฟดหลายคนได้เน้นย้ำว่า "ทัศนคติเกี่ยวกับความอดทน" ที่มีต่อข้อมูลที่เฟดจะได้รับในวันข้างหน้านั้น ยังคงเป็น "ท่าทีที่เหมาะสม" ซึ่งจะช่วยให้เฟดสามารถประเมินความคืบหน้าเกี่ยวกับห่วงโซ่อุปทาน, ตลาดแรงงาน และเงินเฟ้อได้อย่างเหมาะสม
"กรรมการเฟดต่างก็มองว่า คณะกรรมการ FOMC ไม่ควรลังเลที่จะใช้มาตรการที่เหมาะสมในการจัดการกับแรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อเป้าหมายในการสร้างเสถียรภาพด้านราคาและการจ้างงานในระยะยาวของของเฟด"
รายงานการประชุมยังระบุด้วยว่า ในขณะที่กรรมการเฟดส่วนใหญ่สนับสนุนแผนการปรับลดวงเงิน QE ลงเดือนละ 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์นั้น ได้มีกรรมการเฟดบางคนต้องการให้ลดวงเงิน QE ในอัตราที่เร็วขึ้น เพื่อที่จะเปิดทางให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้เร็วขึ้น
"กรรมการเฟดบางคนระบุว่า การปรับลดวงเงิน QE ลงมากกว่า 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือนนั้นอาจเหมาะสม เพื่อให้คณะกรรมการ FOMC มีสถานะที่พร้อมมากขึ้นในการปรับเป้าหมายอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจเผชิญกับแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ" รายงานการประชุมเฟดระบุ