คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติเป็นเอกฉันท์ในการคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 0.00-0.25% ในการประชุมวันนี้
ขณะเดียวกัน เฟดจะเพิ่มการปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) เป็นเดือนละ 30,000 ล้านดอลลาร์ เริ่มตั้งแต่เดือนม.ค.2565 โดยการปรับลดวงเงิน QE ของเฟดจะเพิ่มขึ้น 2 เท่าจากเดิมเดือนละ 15,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งจะส่งผลให้เฟดยุติการทำ QE ในเดือนมี.ค.2565
นอกจากนี้ ในการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) เจ้าหน้าที่เฟดส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในปี 2565 และจำนวน 2 ครั้งในปี 2566 และอีก 2 ครั้งในปี 2567
ทั้งนี้ การประกาศคงอัตราดอกเบี้ยและการปรับลดวงเงิน QE ในวันนี้สอดคล้องกับที่ตลาดคาดการณ์ก่อนหน้านี้ หลังจากที่เฟดได้ส่งสัญญาณหลายครั้งในช่วงที่ผ่านมาว่าเฟดจะเร่งการถอนมาตรการผ่อนคลายทางการเงินที่เฟดได้เริ่มใช้ในเดือนมี.ค.2563 เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในขณะนั้น หลังจากที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19
ก่อนหน้านี้ สำนักข่าว CNBC เปิดเผยผลสำรวจนักวิเคราะห์ระบุว่า เฟดจะมีมติเร่งการปรับลดวงเงิน QE เป็นเดือนละ 30,000 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 2 เท่าจากเดิมเดือนละ 15,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งจะส่งผลให้เฟดยุติการทำ QE ในเดือนมี.ค.2565
ผลสำรวจยังระบุว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิ.ย.2565 ซึ่งจะเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในเดือนมี.ค.2563
นอกจากนี้ นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งทั้งในปี 2565 และ 2566 ซึ่งจะส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยระยะสั้นแตะระดับ 1.50% ภายในสิ้นปี 2566 จากระดับ 0.00-0.25% ในปัจจุบัน และเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปจนถึงระดับ 2.30% ภายในเดือนพ.ค.2567
ขณะเดียวกัน เฟดได้ปรับลดตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐในปีนี้ สู่ระดับ 5.5% ขณะที่ปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของปี 2565 สู่ระดับ 4.0% และปรับลดตัวเลขคาดการณ์ในปี 2566 สู่ระดับ 2.2% และคงตัวเลขคาดการณ์ในปี 2567 ที่ระดับ 2.0% ส่วนอัตราการขยายตัวในระยะยาวอยู่ที่ระดับ 1.8%
เฟดคงตัวเลขคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยระยะสั้นในปีนี้ที่ระดับ 0.13% ขณะที่ปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยในปี 2565-2567 สู่ระดับ 0.88%, 1.63% และ 2.13% ตามลำดับ และคงตัวเลขคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยระยะยาวที่ระดับ 2.5%
ขณะเดียวกัน เฟดปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อในปี 2564-66 สู่ระดับ 5.3%, 2.6% และ 2.3% ตามลำดับ และคงตัวเลขคาดการณ์ในปี 2567 ที่ระดับ 2.1% ขณะที่คงตัวเลขคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อในระยะยาวอยู่ที่ระดับ 2.0%
นอกจากนี้ เฟดปรับลดตัวเลขคาดการณ์อัตราว่างงานในปี 2564-2565 สู่ระดับ 4.3% และ 3.5% ตามลำดับ ขณะที่คงตัวเลขคาดการณ์ในปี 2566-2567 ที่ระดับ 3.5% ทั้ง 2 ปี และคงตัวเลขคาดการณ์อัตราว่างงานในระยะยาวที่ระดับ 4.0%