นายริชาร์ด แคลริดา รองประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยว่า เขาจะลาออกจากตำแหน่งในวันศุกร์นี้ ซึ่งเร็วกว่ากำหนดประมาณ 2-3 สัปดาห์ โดยนายแคลริดาจะครบวาระการดำรงตำแหน่งรองประธานเฟดในวันที่ 30 ม.ค.นี้
การประกาศลาออกก่อนกำหนดของนายแคลริดาเกิดขึ้นในขณะที่มีการเปิดโปงข่าวอื้อฉาวเกี่ยวกับการซื้อขายหุ้นในเดือนก.พ. 2563 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เฟดได้ประกาศความพร้อมที่จะใช้เครื่องมือด้านนโยบายเชิงรุกเพื่อรับมือกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
สื่อหลายแห่งได้เปิดเผยรายงานการตรวจสอบพอร์ทโฟลิโอของนายแคลริดา โดยพบว่ามีการปรับพอร์ทหุ้นในวันที่ 27 ก.พ. 2563 ขณะที่หนังสือพิมพ์นิวยอร์ก ไทมส์รายงานว่า นายแคลริดาได้เทขายหุ้นในกองทุนหุ้นจำนวน 3 กองก่อนหน้า 3 วัน ซึ่งเขาตั้งใจจะกลับเข้าซื้อในวันที่ 27 ก.พ.
ในช่วงปลายปี 2564 นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการทบทวนหลักจริยธรรมของเฟดในเรื่องการทำธุรกรรมทางการเงินอย่างเหมาะสม หลังจากมีการเปิดเผยข้อมูลว่า เจ้าหน้าที่ระดับอาวุโสหลายคนของเฟดได้ทำการซื้อขายหุ้นมูลค่าหลายล้านดอลลาร์ในปี 2563 และเจ้าหน้าที่อีกบางส่วนมีการลงทุนจำนวนมาก
คำสั่งดังกล่าวของนายพาวเวลเกิดขึ้นหลังจากวุฒิสมาชิกอลิซาเบธ วอร์เรน ได้ส่งจดหมาย 12 ฉบับถึงประธานเฟดสาขาต่างๆ โดยเรียกร้องให้มีการตรวจสอบด้านจริยธรรมของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเฟดอย่างเข้มงวด พร้อมกับเรียกร้องให้ประธานเฟดแต่ละสาขาใช้มาตรการสั่งห้ามไม่ให้เจ้าหน้าที่ระดับสูงของเฟดถือครองหุ้นและซื้อขายหุ้น
โฆษกรายหนึ่งของเฟดเปิดเผยกับสำนักข่าว CNBC ว่า นายพาวเวลได้สั่งให้มีการทบทวนหลักจริยธรรมเกี่ยวกับการถือครองสินทรัพย์ทางการเงินและการทำธุรกรรมทางการเงินของบรรดาเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเฟด เนื่องจากเล็งเห็นว่า ความไว้วางใจของชาวอเมริกันมีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับเฟดในการทำภารกิจที่สำคัญ และการทบทวนหลักจริยธรรมในครั้งนี้จะช่วยกำหนดแนวทางเกี่ยวกับการคุมเข้มกฎระเบียบและมาตรฐานต่างๆ