สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า ธนาคารกลางยูเครน (NBU) สั่งระงับการโอนเงินทางระบบดิจิทัล โดยเป็นมาตรการหนึ่งในกฎอัยการศึกที่รัฐบาลประกาศใช้ทั่วประเทศ ส่งผลให้ชาวยูเครนบางส่วนหันไปใช้สกุลเงินคริปโทเคอร์เรนซีแทน
ธนาคารกลางยูเครนออกคำสั่งเป็นลายลักษณ์อักษรเมื่อวานนี้ (24 ก.พ.) ให้ผู้ออกเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-money) ระงับการออก e-money รวมถึงการเติม e-money ในวอลเล็ตด้วย โดยคำสั่งยังระบุด้วยว่า การแจกจ่าย e-money ถูกระงับไว้ชั่วคราว
ทั้งนี้ e-money ดังกล่าวน่าจะหมายถึงเงินตราที่ถืออยู่ในบัญชีดิจิทัลผ่านแพลตฟอร์มต่าง ๆ เช่น เวนโม (Venmo) หรือเพย์พาล (PayPal)
นอกจากนี้ ธนาคารกลางยูเครนยังมีมติต่าง ๆ อาทิ ออกคำสั่งระงับการซื้อขายในตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ, จำกัดการถอนเงินสด และห้ามออกสกุลเงินต่างประเทศจากบัญชีธนาคารลูกค้ารายย่อย
ขณะเดียวกัน คูนา (Kuna) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนสกุลเงินคริปโทฯ ยอดนิยมของยูเครนเปิดเผยว่า ผู้ซื้อในประเทศยอมจ่ายแพงขึ้นเพื่อซื้อสเตเบิลคอยน์เทเทอร์ (Tether USD ? USDT) ซึ่งผูกกับราคาดอลลาร์สหรัฐ
นายไมเคิล โชบาเนียน ผู้ก่อตั้งคูนา ให้สัมภาษณ์กับคอยน์เดสก์ (Coindesk) ว่า "เราไม่ไว้ใจรัฐบาล เราไม่ไว้ใจระบบธนาคาร เราไม่ไว้ใจสกุลเงินท้องถิ่น คนส่วนใหญ่ไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว นอกจากคริปโทฯ"
อนึ่ง เทเทอร์เป็นสเตเบิลคอยน์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด โดยมีมูลค่าตลาดเกือบ 8 หมื่นล้านดอลลาร์ และราคาค่อนข้างมีเสถียรภาพ ต่างจากคริปโทฯ อย่างบิตคอยน์และอีเทอเรียมที่มีความผันผวนสูงในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียดในยูเครน