ธนาคารพาณิชย์รายใหญ่ของสหรัฐได้พากันปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปีในการประชุมเมื่อวานนี้ โดยมีเป้าหมายที่จะควบคุมเงินเฟ้อ
ธนาคารซิตี้กรุ๊ป, เวลส์ ฟาร์โก, เจพี มอร์แกน เชส แอนด์ โค และแบงก์ ออฟ อเมริกา ได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จากระดับ 3.25% สู่ระดับ 3.5% โดยธนาคารเหล่านี้ประกาศขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้หลังจากที่เฟดปรับขึ้นปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.25% สู่ระดับ 0.25-0.50% ในการประชุมเมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบ 4 ปี
เฟดระบุในแถลงการณ์ว่า สงครามในยูเครนและการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้สร้างความไม่แน่นอนต่อเศรษฐกิจสหรัฐ ซึ่งในระยะใกล้ ปัจจัยดังกล่าวมีแนวโน้มที่จะเพิ่มแรงกดดันต่อเงินเฟ้อและเป็นปัจจัยถ่วงเศรษฐกิจ
เจ้าหน้าที่เฟดส่งสัญญาณว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 6 ครั้ง ครั้งละ 0.25% ในช่วงที่เหลือของปีนี้ ซึ่งหมายความว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมทุกครั้งหลังจากนี้ และจะทำให้อัตราดอกเบี้ยระยะสั้นอยู่ที่ระดับ 1.75-2.00% ในปลายปีนี้
ทั้งนี้ หลังจากเฟดประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ย ราคาหุ้นของธนาคารรายใหญ่ในสหรัฐปิดตลาดพุ่งขึ้นถ้วนหน้า โดยหุ้นเจพีมอร์แกน พุ่งขึ้น 4.45%, หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา พุ่งขึ้น 3.11%, หุ้นซิตี้กรุ๊ป พุ่งขึ้น 3.07% และหุ้นเวลส์ ฟาร์โก ดีดตัวขึ้น 2.99%