ธนาคารกลางตุรกีประกาศคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 14% ในการประชุมวันนี้ โดยได้คงอัตราดอกเบี้ยเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน แม้ว่าเงินเฟ้อของตุรกีพุ่งสูงกว่า 50%
ทั้งนี้ เงินเฟ้อของตุรกีพุ่ง 54.4% ในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบเกือบ 20 ปี ท่ามกลางการดีดตัวขึ้นของราคาพลังงาน และการอ่อนค่าของลีรา
อย่างไรก็ดี ธนาคารกลางตุรกีประกาศใช้โมเดลเศรษฐกิจแบบใหม่ ซึ่งจะได้แรงหนุนจากอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำ และการอ่อนค่าของลีรา ซึ่งเป็นการบ่งชี้ว่าธนาคารกลางตุรกีไม่มีแนวโน้มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในขณะนี้
นอกจากนี้ ธนาคารกลางระบุว่าจะยังคงดำเนินการเพื่อรักษาเสถียรภาพของราคาและเสถียรภาพทางการเงิน
ก่อนหน้านี้ ธนาคารกลางได้เริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยตั้งแต่เดือนก.ย.2564 โดยได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่องรวม 5.00% ภายใต้แรงกดดันของประธานาธิบดีเรเซป ตอยยิบ เออร์โดกัน ผู้นำตุรกี ที่ได้ประกาศปลดผู้ว่าการธนาคารกลางหลายคนก่อนหน้านี้ เนื่องจากไม่สนองนโยบายผ่อนคลายทางการเงินของรัฐบาล โดยปธน.เออร์โดกันอ้างว่าการใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยต่ำจะช่วยหนุนการส่งออกและการจ้างงานในประเทศ
อย่างไรก็ดี การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางตุรกีได้ทำให้เกิดวิกฤตการณ์ค่าเงินลีรา ซึ่งทรุดตัวลง 44% ในปีที่แล้ว โดยเป็นสกุลเงินในตลาดเกิดใหม่ที่ปรับตัวย่ำแย่ที่สุด ท่ามกลางแรงเทขายของนักลงทุนต่างชาติที่ไม่มั่นใจต่อความเป็นอิสระของธนาคารกลาง