นายฮารุฮิโกะ คุโรดะ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) กล่าวว่า การดำเนินการรายวันของ BOJ ได้ไม่ได้ส่งผลกระทบรุนแรงและโดยตรงต่อความเคลื่อนไหวของค่าเงินเยน ซึ่งคำชี้แจงดังกล่าวมีขึ้น หลังจากที่ BOJ ได้เสนอซื้อพันธบัตรระยะยาวของรัฐบาลญี่ปุ่นด้วยอัตราดอกเบี้ยคงที่เมื่อวันจันทร์ (28 มี.ค.) ซึ่งส่งผลให้เงินเยนอ่อนค่าลงอย่างรวดเร็วในเวลาต่อมา
นายคุโรดะเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวหลังจากเข้าร่วมประชุมกับนายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะว่า ความเคลื่อนไหวของเงินเยนควรเป็นไปอย่างมีเสถียรภาพ และควรสะท้อนถึงปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจ
"การที่เงินเยนอ่อนค่าลงอย่างมากเมื่อเร็ว ๆ นี้ เกิดจากการที่กลุ่มผู้นำเข้าของญี่ปุ่นต้องการซื้อดอลลาร์ที่ยังคงแข็งค่าหลังจากราคาพลังงานพุ่งขึ้นอย่างมาก และหลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้แสดงจุดยืนที่ชัดเจนเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย"
"ผมไม่คิดว่าการดำเนินการในตลาดของ BOJ จะส่งผลกระทบรุนแรงและโดยตรงต่อความเคลื่อนไหวของเงินเยน และผมได้แจ้งให้ท่านนายกรัฐมนตรีทราบแล้วว่า เป็นเรื่องเหมาะสมที่อัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินต่างประเทศจะเคลื่อนไหวอย่างมีเสถียรภาพและสะท้อนถึงปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจ" นายคุโรดะกล่าวที่ทำเนียบนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นในวันนี้
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า การแสดงความเห็นของนายคุโรดะมีขึ้น หลังจากที่เงินเยนร่วงลงอย่างรุนแรงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐในช่วงต้นสัปดาห์นี้ หลัง BOJ เสนอซื้อพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นประเภทอายุ 10 ปีแบบไม่จำกัดจำนวน เพื่อสกัดอัตราผลตอบแทนพันธบัตรไม่ให้พุ่งเหนือเป้าหมายที่ระดับ 0.25% โดย BOJ ระบุว่าจะดำเนินมาตรการดังกล่าวจนถึงวันพฤหัสบดีนี้
การดำเนินการดังกล่าวของ BOJ ส่งผลให้นักลงทุนพากันเข้าซื้อดอลลาร์และเทขายเงินเยน เนื่องจากมองว่า BOJ ดำเนินมาตรการสวนทางกับธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะทำให้ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสหรัฐและญี่ปุ่นปรับตัวกว้างขึ้น