นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้กล่าวในการหารือเรื่องเศรษฐกิจโลกในที่ประชุมของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เมื่อคืนวานนี้ตามเวลาไทยว่า เฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.5% ในการประชุมวันที่ 3-4 พ.ค.นี้
นายพาวเวลกล่าวว่า การที่อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐพุ่งขึ้นสูงกว่าเป้าหมาย 2% ของเฟดแล้วราว 3 เท่า ทำให้เฟดเล็งเห็นว่า เป็นเรื่องเหมาะสมที่จะเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยมีความเป็นไปได้ว่าจะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.5% ในการประชุมเดือนพ.ค.
นายพาวเวลยังกล่าวด้วยว่า เขารับรู้ได้ว่าขณะนี้นักลงทุนในตลาดการเงินต่างก็เห็นว่าเป็นเรื่องเหมาะสมที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.5% เพื่อรับมือกับตัวเลขเงินเฟ้อที่สูงขึ้น ขณะเดียวกันนายพาวเวลก็ตระหนักว่า เฟดอยู่ระหว่างเส้นแบ่งที่มีความอ่อนไหวระหว่างการควบคุมเงินเฟ้อและผลกระทบที่จะทำให้เศรษฐกิจชะลอตัวลง
"เป้าหมายของเราคือการใช้เครื่องมือเพื่อทำให้อุปสงค์และอุปทานกลับคืนสู่ภาวะที่สมดุลอีกครั้ง และเราจะดำเนินการเช่นนั้นโดยไม่ทำให้เศรษฐกิจชะลอตัวลงจนนำไปสู่ภาวะถดถอย ซึ่งนี่เป็นความท้าทายอย่างมาก" นายพาวเวลกล่าว
ทั้งนี้ นายพาวเวลมองว่า การฉุดดัชนีราคาผู้บริโภคให้ชะลอตัวลงอย่างรวดเร็วนั้น ถือเป็นสิ่งที่จำเป็น เนื่องจากเศรษฐกิจจะไม่สามารถขยายตัวได้ดีหากราคาผู้บริโภคไร้เสถียรภาพ
นอกจากนี้ นายพาวเวลยังกล่าวว่า ความต้องการแรงงานในสหรัฐอยู่ในระดับที่สูงเกินไป และเฟดยังมองไม่เห็นทางอื่น นอกจากการใช้นโยบายคุมเข้มด้านการเงินเพื่อควบคุมอุปสงค์ด้านสินค้าและบริการ และเพื่อให้ภาคธุรกิจลดความต้องการแรงงาน เนื่องจากขณะนี้ตลาดแรงงานอยู่ในภาวะที่ร้อนแรงมาก
"เราเคยคาดการณ์ไว้ว่า อัตราเงินเฟ้อจะพุ่งขึ้นสูงสุดในช่วงเวลานี้ จากนั้นจะชะลอตัวลงในช่วงเวลาที่เหลือของปีนี้ และปรับตัวลงต่อไปอีก แต่การคาดการณ์ดังกล่าวทำให้เราผิดหวัง นับจากนี้เราจะไม่ดำเนินนโยบายที่เอื้อต่อฝั่งอุปทาน แต่เราจะใช้วิธีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อรักษาสมดุลของอุปสงค์และอุปทาน" นายพาวเวลกล่าว
ทั้งนี้ หลังการแสดงความเห็นของนายพาวเวล FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนักมากถึง 97.6% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.5% ในการประชุมเดือนพ.ค.