ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เปิดฉากการประชุมนโยบายการเงินวันแรกในวันนี้ และจะมีการแถลงมติการประชุมในวันพรุ่งนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า BOJ จะคงนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายเป็นพิเศษ (ultraloose monetary policy) ต่อไป เนื่องจากเล็งเห็นว่า การดีดตัวของเงินเฟ้อในช่วงที่ผ่านมานั้น เกิดขึ้นจากปัจจัยชั่วคราว
อย่างไรก็ดี คาดว่าการที่เงินเยนทรุดตัวลงอย่างหนักในขณะนี้ จะทำให้นายฮารุฮิโกะ คุโรดะ ผู้ว่าการ BOJ ถูกกดดันให้ต้องอธิบายเหตุผลที่ BOJ ตัดสินใจตรึงนโยบายการเงิน ท่ามกลางกระแสความวิตกกังวลที่เพิ่มขึ้นว่า การทรุดตัวของเงินเยนจะส่งผลให้ต้นทุนการนำเข้าพุ่งสูงขึ้น และส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจญี่ปุ่นที่ต้องพึ่งพาการนำเข้าทรัพยากร
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ตลาดการเงินกำลังจับตาดูว่า BOJ มีมุมมองอย่างไรต่อการอ่อนค่าของเงินเยน หลังจากที่เงินเยนทรุดตัวลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 20 ปี ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความแตกต่างระหว่างการใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายเป็นเวลานานของ BOJ และการเริ่มใช้นโยบายคุมเข้มด้านการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
ส่วนในการประชุมครั้งหลังสุดเมื่อวันที่ 18 มี.ค.ที่ผ่านมา คณะกรรมการ BOJ มีมติคงนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายเป็นพิเศษ ซึ่งรวมถึงคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ -0.1% และคงเป้าหมายอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีไว้ที่ประมาณ 0% นอกจากนี้ BOJ จะยังคงซื้อกองทุน ETF วงเงินไม่เกิน 12 ล้านล้านเยนต่อปี