นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมวันอังคารที่ 3 พ.ค.นี้ หลังจากอัตราเงินเฟ้อของออสเตรเลียพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 20 ปี โดยหากเป็นไปตามคาด ก็จะเป็นการปรับขึ้นดอกเบี้ยของ RBA เป็นครั้งแรกในรอบกว่า 10 ปี
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของสำนักข่าวรอยเตอร์คาดการณ์ว่า RBA จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยราว 0.15% - 0.25% จากปัจจุบันที่ 0.10% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์
นักวิเคราะห์เชื่อว่า อัตราเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นอย่างรุนแรงเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ RBA ตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติออสเตรเลีย (ABS) รายงานว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่สำคัญ พุ่งขึ้น 5.1% ในไตรมาส 1/2565 เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 4.6%
ทั้งนี้ ดัชนี CPI ไตรมาส 1 ทำสถิติขยายตัวสูงสุดในรอบ 20 ปี เนื่องจากต้นทุนด้านพลังงาน การก่อสร้างที่อยู่อาศัย และราคาอาหาร ปรับตัวสูงขึ้น ส่วนดัชนี CPI พื้นฐานซึ่งไม่นับรวมราคาพลังงาน พุ่งขึ้น 3.7% ในไตรมาส 1 ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 3.4%
รายงานการประชุมประจำเดือนเม.ย.ของธนาคารกลางออสเตรเลียซึ่งมีการเผยแพร่เมื่อวันที่ 19 เม.ย.ระบุว่า ธนาคารกลางใกล้จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 10 ปี เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อพุ่งขึ้นอย่างมาก รวมทั้งภาวะตึงตัวในตลาดแรงงานที่ส่งผลให้ค่าจ้างปรับตัวสูงขึ้น
นายฟิลลิป โลว์ ผู้ว่าการธนาคารกลางออสเตรเลียออกแถลงการณ์ภายหลังการประชุมในเดือนเม.ย.ว่า "ในช่วงหลายเดือนข้างหน้านี้ คาดว่าจะมีหลักฐานสำคัญเพิ่มเติมให้คณะกรรมการ RBA ได้ทำการพิจารณา ซึ่งรวมถึงอัตราเงินเฟ้อและต้นทุนด้านแรงงาน โดยคณะกรรมการจะประเมินข้อมูลเหล่านี้และข้อมูลที่จะได้รับในวันข้างหน้า เพื่อนำมาประกอบการตัดสินใจในการกำหนดนโยบายต่อไป"