ธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% สู่ระดับ 0.35% ในการประชุมวันนี้ ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ว่า RBA จะปรับขึ้นดอกเบี้ยเพียง 0.15% สู่ระดับ 0.25%
ทั้งนี้ RBA ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 10 ปี และส่งสัญญาณว่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ยอีกในอนาคต โดยการปรับขึ้นดอกเบี้ยในวันนี้อาจไม่เป็นผลดีต่อนายกรัฐมนตรีสก็อตต์ มอร์ริสัน ซึ่งกำลังต่อสู้อย่างหนักเพื่อให้ได้ชัยชนะในการเลือกตั้งในวันที่ 21 พ.ค.นี้ ขณะที่โพลสำรวจความเห็นล่าสุดบ่งชี้ว่า นายมอร์ริสันอาจพ่ายแพ้การเลือกตั้งในครั้งนี้
RBA ได้ออกแถลงการณ์ภายหลังการประชุมว่า นี่เป็นเวลาที่เหมาะสมที่ RBA จะเริ่มถอนมาตรการสนับสนุนทางการเงิน เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อของออสเตรเลียพุ่งขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และเศรษฐกิจของประเทศใกล้จะบรรลุการจ้างงานอย่างเต็มศักยภาพ
"คณะกรรมการบริหารของ RBA มีความมุ่งมั่นที่จะดำเนินการในสิ่งที่เห็นว่าจำเป็นเพื่อสร้างความมั่นใจว่า อัตราเงินเฟ้อในออสเตรเลียจะกลับคืนสู่เป้าหมาย ซึ่งการจะบรรลุเป้าหมายดังกล่าวได้นั้น จำเป็นต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย" นายฟิลลิป โลว์ ผู้ว่าการ RBA แถลง
การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่าการคาดการณ์ในวันนี้มีขึ้น หลังจากดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดการใช้จ่ายของผู้บริโภคพุ่งขึ้นแตะระดับ 5.1% ในไตรมาส 1/2565 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 20 ปี
ผลสำรวจซึ่งจัดทำโดย ANZ ในวันนี้ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคออสเตรเลียร่วงลง 6.0% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการลดลงที่รุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนแพร่ระบาดทั่วรัฐฝั่งตะวันออกของออสเตรเลียในเดือนม.ค.ที่ผ่านมา เนื่องจากผู้บริโภคกังวลว่า การพุ่งขึ้นของอัตราเงินเฟ้ออาจส่งผลกระทบต่อค่าครองชีพ และอาจผลักดันให้ธนาคารกลางออสเตรเลียปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย