นายฮารุฮิโกะ คุโรดะ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เปิดเผยในวันนี้ว่า การใช้นโยบายคุมเข้มด้านการเงินไม่ใช่แนวทางที่เหมาะสมสำหรับ BOJ ในเวลานี้ เนื่องจากเศรษฐกิจญี่ปุ่นยังคงอยู่ในช่วงการฟื้นตัวจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
นายคุโรดะกล่าวในงานเสวนาซึ่งจัดขึ้นโดยสำนักข่าวเกียวโดว่า แม้ว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนเม.ย.ปรับตัวขึ้น 2.1% เมื่อเทียบเป็นรายปี แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า BOJ สามารถบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อแล้ว พร้อมย้ำว่า BOJ จะยึดมั่นนโยบายผ่อนคลายการเงินเชิงรุกเพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจและเพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่าการขยายตัวของค่าแรงจะแข็งแกร่งมากขึ้น
"BOJ ดำเนินนโยบายที่แตกต่างจากธนาคารกลางในประเทศอื่น ๆ เนื่องจากญี่ปุ่นไม่ได้เผชิญกับภาวะไร้เสถียรภาพของเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ ด้วยเหตุนี้ BOJ จึงมีเป้าหมายที่จะดำเนินหน้าใช้นโยบายผ่อนคลายการเงินต่อไป" นายคุโรดะกล่าว
ในการประชุมเมื่อวันที่ 28 เม.ย.ที่ผ่านมา คณะกรรมการ BOJ มีมติคงนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายเป็นพิเศษ (Ultraloose Monetary Policy) ซึ่งรวมถึงการคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ -0.1% และคงเป้าหมายอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีไว้ที่ประมาณ 0%
การตัดสินใจคงนโยบายการเงินของ BOJ ในวันนี้สะท้อนให้เห็นว่า BOJ ไม่ดำเนินนโยบายการเงินตามธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และธนาคารกลางรายอื่น ๆ ในยุโรปที่ต่างก็เริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ แม้ผลกระทบจากสงครามในยูเครนจะส่งผลให้การเติบโตทางเศรษฐกิจอ่อนแอลงก็ตาม