นายฮารุฮิโกะ คุโรดะ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมนโยบายการเงินในวันนี้ โดยนายคุโรดะเตือนว่า เงินเยนที่ทรุดตัวลงกำลังส่งผลกระทบด้านลบต่อเศรษฐกิจญี่ปุ่น พร้อมทั้งระบุว่าเงินเยนควรจะเคลื่อนไหวอย่างมีเสียรภาพ และสะท้อนถึงปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจและการเงิน
นายคุโรดะกล่าวย้ำว่า BOJ จำเป็นต้องใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายเป็นพิเศษ (Ultraeasy Monetary Policy) เพื่อให้บรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อที่ระดับ 2% อย่างมีเสถียรภาพและยั่งยืน นอกจากนี้ BOJ จะจับตาความเคลื่อนไหวของตลาดปริวรรตเงินตราอย่างใกล้ชิด
"เงินเยนที่ร่วงลงอย่างหนักเมื่อไม่นานมานี้ ส่งผลให้แนวโน้มเศรษฐกิจเผชิญกับความไม่แน่นอน และทำให้บริษัทเอกชนเผชิญกับความยากลำบากในการวางแผนธุรกิจ นอกจากนี้ ยังส่งผลกระทบด้านลบต่อเศรษฐกิจ อย่างไรก็ดี สิ่งที่สำคัญในขณะนี้คือ การที่บริษัทต่าง ๆ ที่ได้ประโยชน์จากการอ่อนค่าของเงินเยนจะพากันปรับเพิ่มขึ้นค่าใช้จ่ายทุนและค่าแรง"
นายคุโรดะยังกล่าวด้วยว่า BOJ ไม่มีแผนที่จะเปลี่ยนแปลงแนวทางการควบคุมเส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตร (yield curve control) เพื่อสนับสนุนให้เศรษฐกิจฟื้นตัว และยังกล่าวด้วยว่า อัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวในสหรัฐและยุโรปที่พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วนั้น ได้ส่งผลกระทบต่ออัตราผลตอบแทนพันธบัตรญี่ปุ่น จึงทำให้การควบคุมเส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรเป็นเรื่องจำเป็น
อย่างไรก็ดี นายคุโรดะเชื่อว่า ความผันผวนที่เกิดขึ้นในตลาดปริวรรตเงินตราจะไม่ส่งผลกระทบต่อการลงทุนของภาคเอกชนในทันที และจะไม่ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นทางธุรกิจ เนื่องจากการลงทุนของภาคเอกชนญี่ปุ่นยังคงแข็งแกร่ง
ในการประชุมวันนี้ คณะกรรมการ BOJ มีมติคงนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายเป็นพิเศษ ซึ่งรวมถึงการคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ -0.1% และคงเป้าหมายอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีไว้ที่ประมาณ 0% โดยการดำเนินนโยบายการเงินของ BOJ ยังคงสวนทางกับธนาคารกลางอื่น ๆ ทั่วโลกที่พากันปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ
หลังจาก BOJ แถลงมติการประชุมได้ไม่นาน เงินเยนได้ทรุดตัวลงแตะระดับ 134 เยนต่อดอลลาร์ จากระดับก่อนที่ BOJ จะแถลงผลการประชุมซึ่งอยู่ที่ 133 เยนต่อดอลลาร์ ขณะที่ภาวะการซื้อขายในตลาดปริวรรตเงินตราของญี่ปุ่นยังคงผันผวนอย่างมาก